<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_na_tmb.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> นะธนาคารทหารไทย

 

อย่ากระนั้นเลย...วิ่งดีกว่า

 

เขียนโดย...รัตนะ

 

สวัสดีครับ…….. ผู้อาวุโส พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ .. ชาวนักวิ่งทุกท่าน

 จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้… มีอะไร ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางบวกมากพอสมควร ทั่งในเรื่องของสุขภาพจิตใจ ,สุขภาพร่างกาย ฯลฯ

เป็นระยะเวลาประมาณ 7 ปี เห็นจะได้… ตอนนั้นจำได้ว่า ผมเป็นคนเจ้าเนื้อมีพุง น้ำหนักเท่าไรไม่แน่ชัด ดูเป็นคนสมบูรณ์ คล้ายเป็นคนแข็งแรง แต่หารู้ไม่ภายในจะแย่แล้ว บังเอิญที่ทำงาน(ธนาคารทหารไทย) ได้ให้สวัสดิการไปตรวจสุขภาพได้ ในวงเงิน 1,000.-บาท ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่อยากจะทราบสุขภาพของตนเอง จึงได้ไปตรวจหมดค่าใช้จ่ายไป 1,700.-บาท ปรากฎว่าทำให้เราได้ทราบถึงแนวทางสุขภาพของเรา นั่นคือ ทราบว่าไขมันค่อนข้างสูง ,น้ำตาลค่อนข้างสูง ,กรดยูริค เกิน(ถ้าเกินมาก ๆ และนาน ๆ จะทำให้เป็นโรคเก๊าท์) ในวันนั้น หมอก็จัดยามาให้ทาน และกำชับว่าเมื่อยาหมด ให้มาตรวจใหม่

ผมกลับบ้านทานยาตามที่หมอสั่ง อยู่มาวันหนึ่งก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า เอ… ถ้าทานยาอยู่อย่างนี้ มีหวังทานยากันตลอดชีวิตแน่ ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร…ที่เราชอบ. ก็อย่ากระนั้นเลย… หาเวลาว่าง ๆ มาออกกำลังกายดีกว่า(พยายามหาหน่อยนะ เพราะทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..ไม่มีเวลา) แล้วอาหารที่เราชอบ ๆ ก็จะอยู่ไม่ไกลเรานัก

ผมจึงเริ่มหาเวลาในช่วงกลับบ้าน(หลังเลิกงาน) บ้านอยู่ในซอยเสนา ,ที่ทำงานอยู่หน้าสวนจตุจักร…. เดินครับ!… เดินออกจากที่ทำงานไปถึงปากซอยเสนา แล้วค่อยนั่งรถสองแถวเข้าบ้าน เส้นทางก็หาอากาศดี ๆ สักหน่อย(เพื่อสุขภาพปอด) โดยเดินเข้าสวนจตุจักร ผ่าน ปตท. เดินตามทางคนเดิน เพราะจะมีร่องน้ำคั่นระหว่างถนนวิภาวดี กับทางเดิน อากาศดีใช้ได้ แล้วข้ามสะพานลอยตรงหน้าตึก”โตชิบ้า” มีทางเดินในลักษณะเดียวกัน จนถึงหน้าสำนักงานเขตจตุจักร จากนั้นอากาศเริ่มจะไม่ค่อยดีนัก เพราะต้องเดินริมถนน ยกเว้นช่วงหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ จนถึงปากซอยเสนา รวมระยะทางก็น่าจะประมาณ 4-5 กิโลเมตร เดินอยู่เป็นเดือนครับ เรียกว่าพอสร้างกล้ามเนื้อได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มมองสวนจตุจักร …..

เริ่มต้นจากไม่รู้จักรองเท้าวิ่งเลย ถึงได้ไปซื้อรองเท้าเทนนิสมาใส่วิ่ง วันแรกที่วิ่งในสวนจตุจักร วิ่งได้ไม่เต็มรอบดีเลย (1 รอบ เท่ากับ 3 ก.ม.) นอนหงายท้องกลางสนามหญ้า เหนื่อยจริง ๆ ครับ!

วันที่สอง ความระบมมาเยือน ดังเพื่อนสนิททั่วทั้งขา(สองข้าง) ตั้งแต่สะโพกยันน่อง แต่ไม่ละความตั้งใจ ใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีก(นักวิ่งรุ่นพี่เขาว่าอย่างนั้น) ในที่สุดก็บรรลุเป้าหมาย วิ่งได้ 1 รอบสวนจตุจักร

วันที่สาม อยากตามใจตัวเองเสียจริง ๆ เพราะสุดจะบรรยาย นั่นคือระบมชนิดขึ้นลงบันได ยังต้องอาศัยราวบันได ช่วย! แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม เข้าไปเดินบ้างวิ่งบ้าง ก็ยังดี… จากนั้นหยุดพักกล้ามเนื้อสักสองวัน

หลังจากนั้นอาการปวดกล้ามเนื้อก็ทรงตัว จนกระทั่งดีขึ้นเป็นลำดับ เป็นเพราะว่าร่างกายทำการปรับสภาพโครงสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้ทำกิจกรรมนอกเหนือจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เป็นว่า…เริ่มวิ่งได้หนึ่งรอบสบาย ๆ วันเวลาผ่านไป ทั้งหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ ก็แข็งแรงขึ้น ความเร็วก็เริ่มดีขึ้นในระดับหนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทาง (ทุกครั้งที่เพิ่มระยะทาง หรือความเร็ว ก็จะปวดกล้ามเนื้อเมื่อนั้น เนื่องจากร่างกายปรับสภาพ)

การวิ่งออกกำลังกายทุกวัน เป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ จากวันเริ่มต้นจนถึงวันนี้ เรารู้สึกสดชื่น ทานได้มากตามที่เราต้องการ หากวันใดไม่ได้ให้เหงื่อไหลย้อย รู้สึกวันนั้นมีอารมณ์อึมครึม คล้ายท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน ดูไม่สดใส อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ที่แน่ ๆ น้ำหนักลงอย่างเห็นได้ชัด จนเพื่อน ๆ ญาติพี่น้อง ทักทายในแง่ไม่ดีนักว่า ป่วยหรือเปล่า เพราะผอมจนผิดตา เลยต้องเพิ่มการบริโภคให้มากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อวิ่งได้สบาย ๆ ก็วิ่งตามปกติทุกวัน จะเว้นบ้างก็วันเสาร์ และอาทิตย์ เพื่อพักผ่อนกล้ามเนื้อ อยู่มาวันหนึ่งก็มีเพื่อนที่ทำงาน ชวนให้ไปวิ่งในสนามแข่งขันบ้าง หลังจากทนการเชิญชวนไม่ไหวก็เริ่มลงสนามแรกที่ “เขาชะโงก” เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2540 ในระยะทาง 10 กม. พอเข้าป้ายมีความรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ที่เราทำได้ จากบันทึกสถิติใช้เวลา 53 นาที สนุกมากครับ นับว่ายอดเยี่ยมมากมีวิวสวยงามอากาศดี มีต้นไม้เขียวขจี และที่ยอดเยี่ยม ประทับใจสุด ๆ ที่ได้ชมบารมีของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ อย่างใกล้ ๆ ทีเดียว….

จากนั้นมา ก็เริ่มวิ่งเป็นประจำโดยเฉลี่ยก็เดือนละ 1-2 ครั้ง ที่ผ่านมาเคยวิ่งระยะทางสูงสุด 32 กม. ก็ที่สนาม”เขาชะโงก” อีกแหละครับ… รองลงมาก็ 27.7 กม. ที่งานหนองคาย – เวียงจันทร์ ส่วนวิ่งปกติทั่วไป คือ 10 และ 21 กม.

รวมทุกระยะผมวิ่งมาประมาณ 80 สนามแล้วครับ ระยะ10 กิโล เวลาที่ผมทำได้ดีที่สุด 43 นาที ที่งานวิ่งUN

ระยะฮาล์ฟเวลาที่ดีที่สุด 1.37 นาที ผมวิ่งตีคู่เกาะเอ๋-อุษณี  ไปครับเมื่องานวิ่งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 17 ก.พ.45  แต่ถ้าวิ่งเอง เวลาเฉลี่ย ประมาณ 1.45-1.50 ชม.  ส่วนระยะสูงสุดที่เคยวิ่งคือ 32 กม.นั้น ทำเวลา2.42 ชม.

เทคนิคส่วนตัวขณะซ้อมผมอาศัยวิ่งเกาะไปกับคนวิ่งเก่งๆที่เวลาดีกว่าเรา จะทำให้เราวิ่งทำเวลาดีขึ้น และขยันซ้อมให้สม่ำเสมอ  แต่ผมเป็นนักวิ่งสบายๆ วิ่งสนุกๆ  เวลาวิ่งระยะ 10 กิโล ช่วงกิโลที่1-5 ผมจะวิ่งประมาณ 5-5นาทีนิดๆ ต่อ 1 กิโลเมตร พอกิโลเมตรที่5-6 ขึ้นไป จะเริ่มอัดเร็วขึ้น ประมาณ 4นาทีถึง4นาทีครึ่ง ต่อกิโล อัดไปจนถึงเส้นชัย  ส่วนระยะฮาล์ฟประมาณกิโลที่ 15-16 ผมถึงค่อยเร่งทำเวลา ชอบวิ่งระยะ 21 กฺโลมากที่สุดเลยครับสนุกมาก วิ่งแล้วไม่เครียดวิ่ง 10 กิโลผมว่าเครียดกว่ายังไม่หายเหนื่อยเลยถึงเส้นชัยซะแล้ว  แต่21กิโล วิ่งปล่อยตัวไปเรื่อยๆ  ยกเว้นเวลามีลูกบ้าขึ้นมา เจอคนที่รู้จัก อยู่ชมรมอื่นบ้าง ก็วิ่งไล่  ตามเขาไปบ้าง แซงบ้าง  ตั้งแต่เริ่มต้น สตาร์ท   จอดครับ จอดตอนท้าย แถวกิโลที่ 6 ที่ 7  ก็หมดแรงแล้วครับ  จากนั้นก็ลากไปเรื่อยๆจนเข้าเส้นชัย คิดดูสิว่าเหนื่อยแค่ไหน  ผมเคยลองมาแล้ว ก็มันไปอีกแบบ เพราะผมวิ่งแบบสนุกๆแล้วแต่อารมณ์    การวิ่งอาล์ฟผมจะวิ่ง ประมาณกิโลละ 5-7 นาที ไปเรื่อยๆ พอวิ่งถึงจุดๆหนึ่งมันจะรู้สึกสบายไม่เหนื่อยเลย ทำให้เราวิ่งต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะยังมีระยะทางเหลือให้วิ่งต่อไปอีก นี่แหละครับมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของระยะฮาล์ฟ

ผมวิ่งล่าสุดงาน ท.อ. (อยู่ระหว่างเอ็นขาอักเสบ) เลยขอลงระยะ 6 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เป้าหมายเคยคิดอยากจะลง MARATHON สักครั้ง แต่ถึงวันนี้…ไม่กล้าจริง ๆ เพราะว่าแพ้แดด(เป็นฝ้า) เดี๋ยวหน้าดำ ที่กลัว…กลัวสละโสดไม่ได้ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะปัจจุบันนี้ก็เข้า 42 หนาวแล้ว จ้า……..

หมายเหตุ - ทุกครั้งที่วิ่งออกกำลังกาย ควรทาครีมกันแดดด้วยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณใบหน้า แล้ว ปัญหาจะไม่มีอย่างแน่นอน

- ส่วนอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หรือ อื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติของการเล่นกีฬา ,ออกกำลังกาย

สุดท้ายนี้ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ได้อำนวยอวยพรให้ทุกท่านโชคดี และมีความสุขกับการออกกำลังกาย….

 

 

 

ไฟ  โดย...ปริญญา

<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>กฎเกณฑ์ใหม่กับการจับชีพจร

บาดเจ็บจากการวิ่งแข่งขันวิ่งระยะไกลและมาราธอน

 

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่21 มิ.ย.45

 

hit เดิม 101 ยอด ณ.23 มิ.ย.45