<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_fit_or_not.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> ฟิต ไม่ ฟิต

 

ฟิต ไม่ ฟิต

โดย...พ.ญ.สุชีลา จิตสาโรจิตโต

           การเอาใจใส่สุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง มีผู้คน จำนวนไม่น้อยที่จะทราบถึงสุขภาพของตนเองก็ต่อเมื่อมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เสียทั้งเศรษฐกิจการงานเสียทั้งคุณภาพชีวิต เข้ากับสุภาษิตที่ว่า วัวหายแล้วจึงล้อมคอก หลายคนมักคิดว่าการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไป ก็เพียงพอในการบ่องบอกประสิทธิภาพร่างกายซึ่งไม่เป็นจริงเสมอไป  ทั้งนี้เนื่องจากการตรวจสุขภาพทั่วไปอันประกอบด้วย  การเจาะเลือด  เอ็กซเรย์  ตรวจคลื่นหัวใจ  เหล่านี้เป็นการตรวจเช็คร่างกายในขณะพักเท่านั้น  ไม่ได้ตรวจในขณะที่ร่างกายมีการออกกำลังกาย จึงไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าสมรรถภาพร่างกายดีเพียงไร

          สมรรถภาพร่างกายที่ดี  หมายถึง  ความสามารถของร่างกายในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน  รวมไปถึงกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ เช่นการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

          ประสิทธิภาพของร่างกาย ในการประกอบกิจกรรมต่างๆ มาจากการทำงานอย่างสัมพันธ์กันอย่างดีของอวัยวะหลายๆส่วนของร่างกาย  ซึ่งจะสอดคล้องกับลักษณะของกิจกรรมแต่ละอย่างแต่ละประเภท ดังนั้นบุคคลที่มีสมรรถภาพทางกายดี  ย่อมสามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเคลื่อนไหวร่างกายได้นาน  ไม่เหนื่อยง่าย ในทางตรงข้ามผู้ที่สมรรถภาพทางกายต่ำ หมายถึงการขาดความสมบูรณ์ทางกาย ทำให้เกิดความเหน็ดเหนื่อยเร็วกว่าที่ควร ความเหน็ดเหนื่อยทำให้การตัดสินใจช้าลง และการสั่งงานของสมองต่อระบบเคลื่อนไหว ช้าลง หรืออาจไม่เป็นไปตามความคิดได้ทันท่วงที

          กาทดสอบสมรรถภาพ มีประโยชน์คือ ทำให้ทราบถึงระดับความสามารถของร่างกาย ในแต่ละด้าน ที่จะทำหน้าที่ต่างๆ เป็นแนวทางในการพัฒนาความสามารถของร่างกาย หรือส่วนที่บกพร่องให้มีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เป็นแนวทางในการตัดสินใจความสามารถของร่างกายเพื่อนำไปสู่การออกกำลังกายอย่างถูกต้อง  อีกทั้งยังเป็นสื่อในการกระตุ้นนักออกกำลังกายให้พัฒนาความสามารถของร่างกายและรักษาความสมบูรณ์ของร่างกายให้คงอยู่อย่างสม่ำเสมอ

         นอกจากนี้  องค์ประกอบต่างๆ ของการตรวจสมรรถภาพร่างกาย  ยังช่วยบ่งบอกหรือ สะท้อนถึงภาพของความมากน้อยของอัตราเสี่ยงของบุคคลนั้นต่อการเกิดโรคบางอย่างในอนาคต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ  โรคเบาหวาน  โรคอ้วน  โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

         องค์ประกอบของการตรวจสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่

         1.การวัดขนาดและสัดส่วนของร่างกาย  โดยการชั่งน้ำหนัก  วัดส่วนสูง วัดความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง บริเวณของผิวหนังที่จะจับขึ้นมาวัดหาปริมาณของไขมันได้นั้นมีอยู่หลายแห่ง  เช่นที่บริเวณด้านหลังของต้นแขน  บริเวณด้านหน้าของต้นขา  บริเวณขอบบนทางก้นข้างของกระดูกเชิงกราน  บริเวณหน้าท้องด้านข้างสะดือ   บริเวณด้านหลังตรงมุมล่างของกระดูกสะบัก  การวัดค่าความหนาของชั้นไขมันนี้จะสามารถเทียบหาเป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณไขมันที่มีอยู่ในร่างกายเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินว่าผู้ที่ได้รับการตรวจนั้นมีน้ำหนักตัวเกิน  หรือมีภาวะอ้วน หรือไม่

         รายงานวิจัยในปัจจุบันได้ยืนยันว่า  การวัดความยาวรอบเอวจะเป็นค่าหนึ่งที่จะบ่งชี้ถึงความมากน้อยของอัตราเสี่ยงต่อการเกิดดรคดังที่กล่าวไปแล้ว

         2.สมรรถภาพเอ็นและกล้ามเนื้อ ได้แก่

         2.1  การวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscle Strength)  เป็นการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในชีวิตประจำวัน เช่น กล้ามเนื้อแขน  โดยการวัดแรงบีบมือ

         2.2  ความอ่อนตัว (Flexibility)  หมายถึงความสามารถของร่างกายในการเคลื่อนไหวให้ได้ทุกมุมของการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ การยืดหยุ่นตัวของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบๆ ข้อต่อ  ทำให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น  การเคลื่อนไหวของข้อที่สำคัญในชีวิตประจำวันของคนเราคือหลังและไหล่  ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆ น้อย จะมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บต่อข้อนั้นได้ง่าย  เช่นที่พบบ่อยคือผู้ที่เริ่มมีภาวะหลังติดยึด  เมื่อเอี้ยวตัวไปหยิบของที่เบาะหลังของรถอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังอย่างเฉียบพลันได้  หรือผู้ที่มีข้อไหล่ติดยึดแข็งจะใส่เสื้อได้ลำบาก  เป็นต้น  การทดสอบความอ่อนตัวจะเป็นการชี้นำให้สามารถป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่จะเกิดตามมาได้

         3.การตรวจสมรรถภาพของระบบทางเดินหายใจ

         เป็นการวัดปริมาตรความจุปอดและประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจ  ซึ่งผู้ที่สมรรถภาพปอดดี  จะมีความทนทานต่อกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตประจำวันไม่เหนื่อยง่าย  ในทางกลับกัน  ผู้ที่มีสมรรถภาพปอดลดลง  ก็อาจบ่งบอกถึงการขาดการออกกำลังกาย หรือมีพยาธิสภาพในปอด

        4.การตรวจสมรรถภาพ ของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด  หมายถึง  ความสามารถของร่างกายที่ทนต่อการทำงานในระดับความหนักต่างๆ กัน  วัดโดยมีความหนักของงานเป็นตัวกำหนด  เช่น  การขี่จักรยาน  การเดินสายพาน  เป็นต้น  เป็นการวัดอัตราการใช้ออกซิเจนของร่างกายขณะที่มีการออกกำลังกาย  ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอดที่จะสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้

 

(จากวารสาร 9 ทันโรค รพ.พระรามเก้า ฉบับ เดือน เมษายน 2545 )

 ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.45

<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

การฝึกซ้อมวิ่งระยะยาวยังมีความจำเป็น

สัมภาษณ์ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9

อาหาร...ก่อนและระหว่าง...การแข่งขัน