% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_newperson_eightweeks.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %>
นี่เป็นตารางปฏิบัติสำหรับนักเดินมือใหม่ ต้องสร้างแรงจูงใจด้วยการกำหนดตารางการเดิน ป้องกันการท้อถอย และรอคอยที่จะถึงเส้นชัยในไม่ช้า จงเริ่มต้นทำเพื่อพบกับความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ในร่างกายของคุณ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเยี่ยม
สัปดาห์แรก เดินก้าวเท้าแบบช้า ๆ( เหมือนทอดน่อง แต่ให้จังหวะสม่ำเสมอ )ใช้เวลาเดินอย่างต่อเนื่อง 20 นาที ต่อวันแบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่สอง เดินด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น เหมือนเดินตามสบายในวันที่อารมณ์ดี ใช้เวลาเดินอย่างต่อเนื่อง 25นาที ต่อวันแบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่สาม เดินด้วยความเร็วปานกลาง คือเร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิด ใช้เวลาเดินอย่างต่อเนื่อง 30 นาทีต่อวันแบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่สี่ เดินแบบเดินเร็ว ( เหมือนจังหวะที่เรารีบ ๆ)ใช้เวลาเดินต่อเนื่อง 35นาทีต่อวัน แบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่ห้า เดินเร็ว ๆ อย่างต่อเนื่องนาน 40 นาที ต่อวัน แบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่หก เดินเร็ว ๆ เหมือนสัปดาห์ก่อน แต่เพิ่มเวลาเป็น 45 นาที วันเว้นวันเช่นกัน
สัปดาห์ที่เจ็ด เดินด้วยความเร็วคงที่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเวลาเป็น 50 นาที ต่อวัน แบบวันเว้นวัน
สัปดาห์ที่แปด ใช้เวลาในการเดินเท่าเดิม แต่ให้ต่อเนื่องนาน 55 นาที ต่อวัน แบบวันเว้นวัน
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นมา คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณเอง ไม่ว่าจะรูปร่างที่ได้สัดส่วนขึ้น ช่วงขาที่เพรียว และดูแกร่งขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น ระบบหายใจดีขึ้น มีเรี่ยวแรงมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะเป็นแรงจูงใจที่ดีที่ช่วยให้คุณอยากเดินออกกำลังกายเป็นกิจวัตร หากจะให้ดี เพิ่มเรื่องการนั่งสมาธิก่อนนอนเข้าไปอีกหน่อย รับรองว่าหลับลึก แล้วตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นแจ่มใสทุกเช้า อาการหลง ๆ ลืม ๆ หรือคิดอะไรไม่ออกจะหายไป กลายเป็นคนใหม่ที่ดูแข็งแรง สดใส และมันสมองทำงานฉับไวเป็นเลิศ
แต่หลังจากที่พ้นจากความเป็นมือใหม่ไปแล้ว ให้ใช้อัตราการเต้นโดยเฉลี่ยของหัวใจเป็นเกณฑ์ ให้ชีพจรเต้นในระดับที่เหมาะสมของมัน ต่อเนื่องนาน 15 นาที ขึ้นไป ตามแต่สภาพร่างกายจะเอื้ออำนวย ส่วนใครที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว ให้ปรึกษาแพทย์เสียก่อนว่า ควรออกกำลังกายได้ในระดับไหน
ทำไมเราต้องเดิน เพื่อออกกำลังกาย
คำถามที่อาจจะเกิดตามมา แต่มีคำตอบให้แบบง่าย ๆ
ก็เพราะเราขี้เกียจออกกำลังกายแบบอื่นน่ะสิ
ที่จริงการออกกำลังกายมีหลายรูปแบบให้เลือก แต่คนเราก็มักจะมีข้อแม้ว่าไม่มีชุดบ้างล่ะ ไม่มีสถานที่ไม่มีทุน กระทั่ง...ไม่มีเวลาบ้างล่ะ
เดินนี่แหละง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย สถานที่ก็ง่าย ๆ ทั้งบริเวณรอบบ้าน สวนสาธารณะ ถนนหรือในจุดต่าง ๆ ตามที่จะสะดวก เดินได้ทั้งนั้น ขอให้มีใจจะเดินก็แล้วกัน
มีการเปรียบเทียบไว้เหมือนกันว่า การออกกำลังกายด้วยการเดินดีกว่าการวิ่งอย่างไร อย่างน้อยที่สุดการเดินจะก่อเกิดความชอกช้ำของกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และข้อต่อ น้อยกว่าการวิ่ง มีอุบัติเหตุน้อยกว่าการวิ่ง และเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย มากกว่าการวิ่ง เช่น คนแก่ก็สามารถเดินออกกำลังกายได คนไข้ หญิงมีครรภ์ คนอ้วน ก็สามารถเดินออกกำลังกายได้ด้วยเช่นกัน แต่ข้อที่ด้อยกว่าก็คือ การเดินอาจต้องใช้เวลามากกว่าการวิ่งสักเล็กน้อยเท่านั้นเอง
( จากนิตยสาร ชีวจิต ปีที่ 1 ฉบับที่ 14 เดือน พ.ค.42 )
บันทึก (ไม่) ลับ...ส่วนตั๊ว...ส่วนตัว โดย...รุจิรา
หาเวลาออกกำลังกายยากจริงหรือ จ๊อกกลิ้ง
ผู้สูงอายุกับการวิ่ง
ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.44<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>