นายยิ้ม(webmaster)..กับการวิ่ง

 Since 7/01/44: <% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

ผม เริ่มวิ่งเหยาะๆ (Jogging) ประมาณ ปี 2530 ก็ 20 กว่าปีมาแล้ว แต่ก็หยุดไปหลายปีเพราะ อาการบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณหลังเนื่องจากการก้มยกของผิดท่า   การฝึกซ้อม เริ่มแรกก็วิ่งแถวๆ บ้านได้ กิโล 2 กิโล ก็เหนื่อยแล้ว โดยลุกขึ้นวิ่งตอนเช้ามืด วิ่งเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน พยายามวิ่งให้ได้ทุกเช้าจนสามารถซ้อมวิ่งได้ วันละ 5-7 กิโลเมตร วิ่งอยู่คนเดียวเพราะช่วงนั้นการออกกำลังกายด้วยการวิ่งยังไม่ตื่นตัวมากเหมือนในปัจจุบันและข่าวเกี่ยวกับงานวิ่งต่างๆ ก็ยังมี น้อยมาก

หลังจากหัดซ้อมวิ่งอยู่นานก็ตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันระยะทาง 10 กม เป็นครั้งแรกในรายการ วิ่งชิ่งเจ้าถนนสู่ความ เขียวขจี ของเขต 10 กรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2531 เวลา 07.00น ค่าสมัครก็แค่ 30 บาท แต่ไม่มีเหรียญอะไร ทั้งสิ้นนอกจากผู้ที่ชนะที่ 1-3 ได้เบอร์วิ่ง  1042    เส้นทางวิ่งก็ถนนรัชดาภิเษก โดยมีจุด  start- finish ที่ศูนย์วัฒนธรรมไทย ผมทำเวลา ได้ 52 นาที ซึ่งยังจำความรู้สึกในช่วง กม. ที่  9  ก่อนเข้าเส้นชัยได้ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ตอนนั้นขนลุกซู่ และพูดกับตัวเอง อยู่ในใจว่า เราทำได้แล้ว  แม่ครับผมวิ่ง 10 กม ได้แล้วครับ รู้สึกว่ามันเป็น ความภูมิใจจริงๆ มันเป็นความสามารถของเรา ที่เกิดจาการฝึกซ้อม มาเป็นระยะเวลาเกือบปี โดยที่ไม่มีใครบังคับหรือมาบอกให้วิ่ง

หลังจากรายการแรก ก็เว้นมา 4 เดือน รายการที่ 2 ก็ตามมา คือ รายการ หอวังมินิมาราธอนครั้งที่ 1 ระยะทาง 10 กม. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2531 ค่าสมัครก็แค่ 20 บาท ได้เบอร์วิ่ง 2044 ครั้งนี้ทำเวลาได้ 51 นาที งานวิ่งที่ 3 ก็อีก 4 เดือน ต่อมา ในรายการ เกเตอเรด รัน แรลลี่ ครั้งที่  1  ในวันที่  23 เมษายน  2532  เวลา  07.00 น. ระยะทางประมาณ 6 กม ซึ่งเป็นรูปแบบ การวิ่งแบบแรลลี่ ซึ่งต้องเข้าฟังกฎ กติกา กันล่วงหน้า ค่าสมัคร 120 บาท รับเสื้อ 1 ตัว ได้เบอร์วิ่ง 1001 วิ่งภายในมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์

ครั้งที่ 4 ก็วันที่ 25 ธันวาคม 2532 หอวังมินิมาราธอน ครั้งที่ 2 ระยะทาง 11.5 กม บริเวณสวนจตุจักร ค่าสมัครก็ 20 บาท ครั้งนี้ทำเวลา ได้  56.19   นาท     ตั้งแต่ปี    2533  เริ่มมีอาการเจ็บหลัง    ซึ่งเกิดจากก้มยกของหนัก ทำให้เจ็บแป๊ลบริเวณเอว หลังจากนั้นก็เป็นๆ  หายๆ    พอวิ่งก็รู้สึกเจ็บ หยุดไป 2-3 เดือน ลองวิ่งใหม่ก็จะเจ็บอีก นอกจากนั้นก็มีอาการเจ็บข้อเท้าร่วมด้วย เลยลองหยุดยาว และมาลอง วิ่งอีกครั้ง พอวิ่งได้ 1-2 อาทิตย์อาการ เจ็บเอว ก็กลับมาอีก ก็เลยหยุดยาว จนมาลองเริ่มวิ่งอีกครั้งในปี 2541 นี้เอง ซึ่งก็ไม่มีอุปสรรค จากการบาดเจ็บใดๆ    แต่อาการเจ็บหลังก็จะไม่หาย ขาด  แต่ไม่รุนแรง ซึ่งการกลับมาวิ่งใหม่นี้ วิ่งช่วงเย็นหลังเลิกงานวิ่งกับผู้ร่วมงาน มีความสนุกสนานดีไม่เหงา หลังจากซ้อมให้เข้าที่ก็เป็นเวลา หลายเดือน ก็ตัดสินใจเข้าร่วม วิ่งแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง งานแรกก็คือ วิ่งมินิมาราธอน 10 กม ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมทหาร สนามภายใน กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  เมื่อวันอาทิตย์ที่  17 มกราคม   2542 เวลา 06.00 น.  ค่าสมัคร 200 บาท ได้เสื้อ ได้เหรียญที่ระลึก ครั้งนี้ผม วิ่งใช้เวลา 53.11  นาที

ต่อจากนั้นเป็นต้นมา นายยิ้ม ก็จะเข้าร่วมการวิ่งแข่งขันเป็นประจำ เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง  ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ของการวิ่งในสมัยเมื่อ 10 ปี ก่อน กับปัจจุบัน ก็คือ ค่าสมัคร 20 – 30 บาท ไม่ได้เสื้อ ไม่ได้เหรียญ ไม่มีบริการอาหารหลังวิ่ง มีเพียงน้ำดื่ม  2-3 เจ้าเท่านั้น และนิยมเริ่มวิ่ง 7 โมงเช้า ตารางการแข่งขันก็มีไม่ถี่เหมือนเดี๋ยวนี้ ซึ่งบางครั้งชนกันถึง 3 - 4 งาน 

ผมหวังว่างานวิ่งครั้งหน้า คงจะได้เจอเพื่อนๆ ที่ชอบวิ่งและเล่น Net เหมือนๆ กัน ถ้าเจอกัน ก็ทักทายกันบ้างนะ