แชร์ประสบการณ์ตรง จากการใช้ผลิตภัณท์ไฮบาลานซ์ด้วยตัวเอง
( สั่งซื้อเป็นครั้งที่2และแนะนำเพื่อนๆ)
Date: Sun, 19 Sep 2010 11:24:43
คุณกิตติภพ(แต๊งค์) ฝั่งธนฯ กทม.
ปัจจุบัน อายุ 35 ครับ สูง173 cm. นน.88
เรื่องราวของผม อาจจะยาวนิดนึงนะครับ เพราะจากเดิมผมเป็นคนอ้วนมาก
แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะมีสุขภาพที่ดี และมีรูปทรงที่ดูเท่ห์ๆ (แม้ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้า แต่เดินมาไกลแล้วครับ)
บวกกับการใช้ผลิตภัณท์เสริมอาหารไฮบาลานซ์ ทำให้ผมขยับเข้าใกล้เป้าหมายไปเรื่อยๆ
เผื่อใครที่มีน้ำหนักตัวเยอะๆ อาจใช้เป็นแนวทางหรือแรงบันดาลใจ ในการออกกำลังกายครับ
ในอดีตจากการที่ปล่อยตัว กินเหล้าเป็นประจำ แล้วก็กินไม่เลือก
ร่วมสิบกว่าปี ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นจาก 75กิโล เป็น 120กิโล
เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ตัวเราใหญ่กว่าคนอื่นมากๆ ขึ้นอืดเลย
ใส่เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก มีแต่เพิ่มไซค์ตลอด จนบางทีต้องสั่งตัด
ตอนนั้นขนาดรอบเอว 48 นิ้วครับ ใส่อะไรก็ดูไม่ดีเลย
บุคลิกภาพแย่ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การทำงานก็ด้อยประสิทธิภาพลง
แถมป่วยบ่อย กลางคืนก็นอนกรน เช้ามาก็เพลียๆ
ปวดเมื่อยไปทั้งตัว เพราะนอนทับตัวเอง เจ็บหัวใจจี๊ดๆ
ปวดเข่า ปวดข้อเท้า ปวดหลังเวลาเดิน ปวดหัวบ่อยๆ
บางทีตัวชาไปซีกนึงเลย กลัวจะไปก่อนวัยอันควรครับ
การเป็นคนอ้วนมันเป็นปมด้อยอยู่แล้วครับ เป็นตัวตลกในสังคม
ไปไหนใครๆก็หัวเราะเยาะ แถมยังมาเจอโรคร้ายรุมเร้าอีก สุขภาพจิตแย่มากๆครับ
ในที่สุด เมื่อสองปีที่แล้ว ก็มีความคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนตัวเองซักที
เริ่มแรกโดยการออกวิ่งๆๆๆ แบบไร้ทิศทาง แต่ก็เพราะนน.ตัวที่มากเลย
ทำให้ปวดข้อเท้า เข่า แถมเหนื่อยแทบขาดใจเลยหยุด
เปลี่ยนเป็นเดินแทน แต่เดินเท่าไหร่ๆ ก็ยังเหมือนเดิม
แถมยังกลับมากินมากกว่าเดิมอีก เพราะความหิวจากการออกกำลังกาย
การที่จะเอาไขมันในร่างกาย ที่อยู่กับเราเป็นสิบกว่าปี (เรียกได้ว่าไปไหนก็ต้องแบกไปกัน)
ออกไปนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงตัดสินใจเดินเข้าไปสมัครที่ยิมแห่งหนึ่ง
ยิมแห่งนี้จะเน้นพวกการเพาะกายครับ แล้วก็โชคดีมาก ที่ผมไปเจอกับผู้รู้หลายๆท่าน
ได้ให้คำแนะนำต่างๆ แล้วผมก็ลงมือปฏิบัติพร้อมด้วยการศึกษาหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองควบคู่ไป
จากการเล่นเวททำให้กล้ามเนื้อกระชับ ได้รูปทรง หลังจากเล่นเวทเสร็จ
ก็วิ่ง+เดิน บนลู่วิ่งต่อ เพื่อเผาผลาญไขมันไปอีกทางครับ
วันไหนวันหยุดไม่มีไปยิม ผมก็จะออกไปวิ่งเช้าบ้าง เย็นบ้างแล้วแต่โอกาสอำนวยครับ
เริ่มควบคุมอาหาร โดยเลือกอาหารที่มีคุณค่าครับ แบ่งแยกย่อยเป็น 6 มื้อต่อวัน เน้นโปรตีน
เนื้อไก่ ไข่ไก่ ปลา ผัก ผลไม้ แป้งก็กินเป็นข้าวกล้องครับ ข้าวโอ๊ตบ้าง ถั่ว งา ธัญพืชทุกชนิด
*** ((เห็นมั้ยใครว่าลดความอ้วน ต้องอดอยาก ไม่จริงเลยครับกินได้มากกว่าคนปกติอีก)) ***
ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด เพื่อให้ฮอร์โมนแล้วก็ระบบต่างๆในร่างกายเป็นปกติ
หลังจากผ่านไปปีกว่า น้ำหนักตัวเริ่มลงไปเรื่อยๆครับ ทีละ 3 กิโล 5 กิโล ปล่อยให้ลงไปเรื่อยๆ
จนมาตันอยู่ที่ 95กิโลครับ อยู่หลายเดือน ลองหลายวิธีก็ยังไม่ลงกว่านี้ครับ
จนได้มาเจอกับเว็บ thairunning แล้วเจอกับผลิตภัณท์ไฮบาลานซ์ครับ
จากการหาข้อมูลบนอินเทอเน๊ต เห็นว่าแอลคาร์นิทีน เป็นอาหารเสริม
ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางวิทยาศาสตร์การกีฬา ในการลดน้ำหนัก เร่งเผาผลาญไขมัน
เลยจัดการสั่งมาลองทานดูครับ พร้อมด้วยยางรองส้นรองเท้ามาใส่วิ่งอีกหนึ่งคู่
โดยเอามารับประทานก่อนออกวิ่งครึ่งชั่วโมงครับ ตอนเช้า
ตอนเย็นก่อนไปเล่นเวทอีกหนึ่งเม็ด วันไหนไม่ได้เล่นเวทก็
ไม่ได้ทานครับ
Bingo !!! !..... น้ำหนักลงแล้ว!! ไหลลงมาเรื่อยๆเลยครับ
ทานหมดกระปุก นน.หล่นมาเจ็ดกิโล ได้ผลจริงๆครับ
จากประสบการณ์การใช้จริงด้วยตัวเอง เผาผลาญได้จริงๆ
ไม่ได้เชียร์เกินจริงนะครับ กางเกงยีนส์หล่นมากองที่ข้อเท้าเลย ..อิอิ
ปัจจุบัน น้ำหนักตัวผมอยู่ 88กิโลครับ รอบเอวเหลือ 36 นิ้วครับ
เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ดูหนุ่มขึ้น ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ
จากการเล่นเวทให้กล้ามเนื้อกระชับ ควบคู่ไปกับการทานไฮบาลานซ์ก่อนเบริ์น
คุ้มค่าครับกับการที่ออกแรงเหนื่อย แล้วเห็นผลสำเร็จในกระจก
ตอนนี้เป้าหมาย ของผมไม่ได้วัดที่น้ำหนักตัวแล้วครับ
ตอนนี้ขอให้ดูดี ดเท่ห์ๆ ดูเฟริ์มๆ ร่างกายแข็งแรงก็เพียงพอแล้วครับ
อันนี้เป็นทริคของผมนะครับ ***
- เหล้า เดี๋ยวนี้ไม่แตะแล้วครับ นานๆจะมีซักที
- งดเค็ม ของหวานทานแต่น้อย มันๆก็เลี่ยง แป้งกินก็พวกคาร์โบไฮเดรทเชิงซ้อน เช่นพวกข้าวกล้องนะครับ
- แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยๆครับ ซักสี่-ห้ามื้อ ต่อวัน เพื่อรักษาระบบการเผาผลาญให้มีต่อเนื่องทั้งวัน
- ก่อนวิ่งช่วงเช้า ทานไฮบาลานซ์ ตอนท้องว่างแล้วไปวิ่งครับ รู้สึกได้ถึงการวิ่งที่มีประสิทธิภาพขึ้น นานขึ้น
- การวิ่งแล้วแต่ครับ บางทีก็วิ่งสุดฝีเท้า 1นาที เดินเร็ว 2 นาที ทำทั้งหมดห้าชุดครับ ก็จะได้ 15 นาทีพอดี ประหยัดเวลาแต่
เหนื่อยสุดๆครับ ((แนะนำสำหรับคนที่ออกกำลังกายมานานพอควรแล้วนะครับ ถึงจะทำแบบนี้ได้ ไม่งั้นหัวใจอาจวายได้))
บางวันก็ใช้โปรแกรมแบบวิ่งนาน วิ่งไปเรื่อยๆ 45นาที ถึง1ชั่วโมง
- เล่นเวทควบคู่ไป เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ ไม่ย้วย หย่อนยาน
- ทานตามใจปากตัวเองอาทิตย์ละ1-2ครั้ง เพื่อให้ชีวิตมีชีวา จะได้ไม่เหี่ยวเฉา ชีวิตเรามีหลายมิตินะครับ ให้รางวัลตัวเองบ้าง
จากการทำงานเหนื่อยๆด้วยการทานอาหารอร่อยๆ ไม่ควรตึงกับเรื่องลดน้ำหนักมากเกินไป
ท้ายสุดนี้ก่อนออกกำลังกายใดๆก็แล้วแต่ ควรจะวอร์มให้ได้ที่ก่อนนะครับ
เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ แล้วก็ออกกำลังเพียงแค่ความเหมาะสมของสภาพร่างกายครับ
ขอให้มีความสุขในการออกกำลังกายนะครับ...