วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริงๆ

                                                                     เขียนโดย.....แมวน้ำ

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม เอ้ย ท่านผู้อ่านที่เป็นนักวิ่งและกำลังคิดจะเป็นนักวิ่งทั้งหลายชายหญิง  ก่อนอื่น ต้องขอออกตัว เสียก่อนนะคะว่า ไม่เคยเขียนเรื่องราวต่าง ๆ มาก่อนเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ซึ่งถูกชักชวน ชักจูง จากนายยิ้มให้มาเข้า ร่วมก๊วนด้วย ให้เขียนอะไรก็ได้ทั้งที่มีสาระและไม่มีสาระให้เพื่อน ๆ มิตรรัก นักวิ่งทั้งหลายได้อ่านกันเล่น ๆ สนุก ๆ ถ้า ประเภทไม่มีสาระ พอจะเขียนได้ มีเยอะมากที่อยากจะเขียน เอาละค่ะ เรามาเริ่มเข้าเรื่องที่จั่วหน้าไว้ดีกว่า "วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริง ๆ" ตามสไตล์ของแมวน้ำ ได้ ณ บัดนี้

แมวน้ำเชื่อว่าทุกคนเมื่อได้เข้าไปวิ่งในสนามแข่งขัน จะต้องได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา อย่างแน่นอน  และเชื่อว่ามักจะมีการวิ่งไป ทักทายกันไป ยิ้มกันไป พูดจาปราศัยกันไป มีทั้งหยอกล้อ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน  ดูเหมือน มีความเป็นเพื่อน  มีความเป็นกันเอง และมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน อยู่ในกลุ่ม  หรืออาจจะนอกกลุ่ม เรามักจะเห็น พฤติกรรมอย่างนี้ตลอดเวลาในทุกสนามวิ่ง  ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันก็ตาม ณ ที่แห่งนี้ เรา จะพบ "รอยยิ้ม" มากมาย ทั้งเพื่อนที่เพิ่งรู้จัก  เพื่อนนักวิ่งที่คุ้นเคย บางคนเห็นหน้ากันทุกอาทิตย์ในสนามแข่งหรือ สนาม ฝึกซ้อม บางคนก็ไม่เคยพูดจากันเลย  แต่พวกเราก็จะทักทายกันด้วย "รอยยิ้ม" ดังคำที่ว่า "วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริง ๆ"

จากความช่างสังเกตุของแมวน้ำ  มักจะพบว่าเพื่อนนักวิ่งหลายๆ คน จะแวะเวียนเข้าไปสอบถาม เพื่อนที่มีปัญหา ในการวิ่ง  ไปให้ความช่วยเหลือ  เมื่อเพื่อนเหล่านั้นมีปัญหา เช่น ข้อเท้าแพลง หมดแรง เป็นลมฯ  ก็จะมีนักวิ่งด้วยกัน เข้าไปช่วยเหลือ  ดูอาการ  ปลอบประโลมพร้อมด้วย "รอยยิ้ม" ดูแล้ว สบายใจจริง ๆ "วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริงๆ"  แต่บาง คนเรายิ้มให้เขาก่อน เขาก็ไม่ยิ้มตอบ (คงจะ เหนื่อยมั้ง)  บางคนวิ่งๆ ไป หันหน้ามาเจอะกันก็ยิ้มให้กัน ถึงแม้จะเป็นยิ้ม ที่เหยเก ยับยู่ยี่ บู้บี้ก็ตาม (ก็มันเหนื่อยนี่นา) แต่ก็มีความสุขที่ได้รับไมตรีตอบ  สมกับคำที่ว่า "วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริง ๆ"

แต่คนที่ยิ้มแย้มจนหน้าบานเป็นจานเชิง เห็นจะไม่พ้นกองเชียร์ที่อยู่ริมลู่  ปรบมือให้กำลังใจ เป่าเมาท์ออร์แกน แทนการให้กำลังใจ  (คุณลุงปรีชาของพวกเราไงล่ะ)  พร้อมกับพูดว่า ใกล้ถึงแล้วครับ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว  ใกล้ถึง แล้วค่ะ อดทนหน่อยนะคะ เสียงเชียร์เหล่านี้จะเป็นกำลังใจช่วยเสริมพลัง ทำให้ใจคึกคัก กระฉับกระเฉง  มีเรี่ยวมีแรง (ทั้ง ๆ ที่แรงเกือบจะหมด) แต่สิ่งเหล่านี้เป็น กำลังใจต่อนักวิ่งอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี  เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น  โดยเฉพาะ "รอยยิ้ม"  และเสียงทักทาย เซ็งแซ่  เมื่อใกล้ถึงเส้นชัย  หรือท่านว่าไม่จริง  "วิ่งไป ยิ้มไป สบายใจจริง ๆ" พบกันใหม่ฉบบหน้า สำหรับ วันนี้ต้องขอกล่าวคำว่าสวัสดี

..............6  ตุลาคม  2543


 

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ


เขียนโดย.....แมวน้ำ

 

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ นักวิ่ง นักอ่าน ประจำ web site Thairunning.com ที่รัก ทุกท่าน พบกันเช่นเคย กับแมวน้ำเจ้าเก่าขาเม้าท์ ประจำ Web สำหรับข้อเขียนฉบับนี้ ยังไง้ ยังไง ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องยิ้ม ๆ อยู่ดี ลองอ่านดูเถอะค่ะ สักครั้งก็ยังดี

เพื่อน ๆ เชื่อไหมว่าคนเราทุกวันนี้มีความต้องการ มีความปรารถนา มีความคิด มีความไฝ่ฝัน ที่แตกต่างกันออกไป

แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งแมวน้ำเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนามากที่สุดในชีวิต สิ่งนั้นก็คือ การมีชีวติที่สงบสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่สิ่งเหล่านี้จะหาได้จากที่ใดเล่า

 ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ชีวิตเราดำเนินไปไม่ได้ราบรื่นนัก ตราบใดที่เศรษฐกิจของประเทศเราเป็นดั่งเช่นทุกวันนี้ หันไปทางใดก็จะพบกับคนที่ตกงาน ใครที่เคยร่ำรวยก็กลับกลายเป็นอดีตของผู้มีอันจะกิน คำที่เคยเรียกว่า "สยามเมืองยิ้ม" กำลังจะเลือนหายกลายเป็น "สยามเมืองแย่" ตรงกับคำ โบราณที่ว่า "เสือยิ้มยาก" จำได้ว่าเมื่อสมัยแมวน้ำยังเป็นเด็ก ๆ มีความสุข หัวเราะสนุกสนาน ครั้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่กลับหัวเราะไม่ออก เพราะการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ความรับผิดชอบทางด้านการงาน จนบางครั้งถึงกับลืมนึกถึงความสนุกสนาน และ "รอยยิ้ม" ที่สดใสบนใบหน้า บางคนอาจตกทุกข์ได้ยาก ประสบมรสุมชีวิตมากมายทำให้ไม่มีโอกาสได้ยิ้มหรือหัวเราะอย่างมีความสุข

การยิ้มและการหัวเราะ จัดว่าเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด แต่ได้ผลกำไรอย่างมหาศาลทีเดียว เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ "รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ" ที่ปรากฎบนใบหน้าของทุกคนนั้น จะบ่งบอกได้ถึงการมีอารมณ์ที่แจ่มใส เบิกบาน มองโลกในแง่ดีและถือได้ว่าเป็นอารมณ์ที่สง่างามที่ใคร ๆ พบเห็นก็อยากที่จะทักทายพูดคุยด้วย ใครก็ตามที่สะสมความเครียดเอาไว้ คงต้องหาวิธีผ่อนคลายให้หายเครียดด้วยการสร้าง "รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ" นั่นคือการสร้างอารมณ์ขันนั่นเอง

แมวน้ำเขียนเรื่อง "รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ" มาทั้งหมดนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อน ๆ จะได้รู้จักและเข้าถึงประโยชน์ของการยิ้มและการหัวเราะ เราจะอยู่เฉยทำไมเล่า เรามาเร่งสร้าง "รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ" กันเถิด เพื่อความสุขของตนเองและเพื่อนรอบข้าง แล้วคุณล่ะ ยิ้ม.......หัวเราะ........ครั้งสุดท้าย เมื่อใด

ฝากข้อคิดปิดท้าย และฝากไว้ให้หัวเราะ



มายิ้มแย้มแจ่มใสให้กับโลก                 ดีกว่าโศกเสียใจให้อับเฉา
มาหัวเราะสร้างรอยยิ้มกันเถอะเรา             ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มไว้เถิด เกิดผลดี

เราเกิดมาต้องร่าเริงกันเข้าไว้                  จะบูดบึ้งไปทำไมไม่สดชื่น
หัวเราะเล่นหัวเราะเป็น ยิ่งครึกครึ้น         อายุจะยืนหมื่นปี ดีจังเอย


อ้างอิง: - นิตยสารสปอร์ต ไทยแลนด์
- หนังสืออารมย์ขัน ของ คุณปราชญา กล้าผจญ

..................12 ตุลาคม 2543