<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_smart_emergency_carry_on.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> ความเท่ของการถูกหามเปลลงจากเวทีสังเวียน_กฤตย์

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.49<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

 

ความเท่ของการถูกหามเปลลงจากเวทีสังเวียน

 

โดย   กฤตย์  ทองคง

 

               ผู้เขียนปรารถนาให้พวกเราฝึกฝนการวิ่งด้วยท่วงท่าของความพากเพียรพยายามมากกว่าการทุ่มเทแสวงหาสูตรเทคนิควิธีการแปลกๆใหม่ๆ  กับความคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์อย่างมหัศจรรย์  ที่ไม่ว่าจะเป็นสูตรฝึกจากสำนักใดนั้น  ไม่สำคัญนัก  อยู่ที่เรานำมันมาดัดแปลงประยุกต์ให้เข้าสอดรับกับความเป็นตัวของเรา  โดยผ่านการฝึกฝนที่ยาวนาน  ประหนึ่งหยาดน้ำทีละหยด  เพียงแต่ขอให้สม่ำเสมอเสียอย่าง  ย่อมเต็มตุ่มเข้าสักวัน

 

               อย่าไปให้ค่ากับความรีบร้อน  หักโหม  กระหายความสำเร็จเร็ววันทันใจ  ที่เหตุการณ์แวดล้อมต่างๆล้วนแต่ยั่วเย้าให้เราหลงออกนอกเส้นทาง  ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของผู้มาทีหลัง  หรือโบรชัวสนามต่างๆออกมาไล่ๆกัน  ตราบที่เมื่อพวกนั้นเจ็บไป  มีรึที่เขาจะมาสารภาพว่า  เพราะฉันรีบเร่งรัดแผนฝึกด้วยการเพิ่มความเข้มอย่างคึกคะนอง  หรือไปวิ่งบ่อยเกือบทุกสนาม  เกินกำลังตัวเองไป  จนเดี้ยง  เขาย่อมอ้างต้นเหตุปัจจัยอื่นมากลบเกลื่อน อย่างรู้ตัวเองบ้างไม่รู้ตัวเองบ้าง     อันตัวเรา เป็นตัวของเรา  ควรตระหนักรู้อยู่ตลอดเวลาการฝึกว่า  เรือนร่างของเรารับได้แค่ไหน  กับเพดานความเข้มจากแผนฝึกหนึ่งๆ     We have a lot more time to learn.

 

               การดำเนินแผนฝึกวิ่ง  ขอให้เราจัดสรรชนิดที่ค่อยๆเขยิบขึ้นทีละก้าว    Gradually Increase   ตามการออกแบบของโค้ชที่วางไว้ล่วงหน้า  โดยที่ต้องปักหลักด้วยความศรัทธาอย่างเหนียวแน่นว่า  มันย่อมนำความสำเร็จมาให้เราได้แน่  แม้กลางทางจะอ่อนล้า หรือพบอุปสรรคไปบ้าง  ที่อาจมีผลให้เราจดจ่อแผนฝึกจางไปไม่เหมือนเก่า  ก็ให้ถือปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับความจำเป็นด้วยการหยุดพัก  หรือแม้แต่ปรับลด”โวลลุ่ม”ลงชั่วคราว  จะได้ใช้โอกาสตั้งสติ  ไตร่ตรอง  การจัดการแบบใหม่ๆให้ราบรื่นกว่านี้  แม้แต่การแสวงหาเครื่องมือที่จะนำเราไปสู่การปรับความสามารถใหม่ดังกล่าว  ก็ย่อมมีความจำเป็น   เซอร์วินสตัน  เชอร์ชิล  กล่าวว่า     “Success is going from failure to failure without a lose of enthusiasm”

 

               เชื่อว่า  หากผ่านพ้นช่วงตรงนี้ไปได้  เราย่อมผยองและทรนงต่ออุปสรรคใหม่ๆ  พร้อมเสมอที่จะเจอกับมันอีก  ลุกขึ้นสู้ใหม่ได้  ด้วยแรงใจที่เข้มข้นกว่าเดิม  เชิดหน้าใส่ได้เลย   

 

  “กว่านี้...กูก็เคยมาแล้ว”

 

               ที่มักจะเผลอกันบ่อยก็คือ  เราทะลึ่งไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น  ทั้งๆที่เจ้าตัวก็รู้ว่ามันเป็นวิธีคิดที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม  แต่หากเผลอๆ  มันก็อดไม่ได้  เป็นอย่างนี้เสียทุกทีไป  ดังนั้น     “สติ”     จึงมีความสำคัญมาก

 

               “น้ำต่อให้หยดช้าขนาดไหน  ก็สามารรถเต็มตุ่มได้แน่นอน”  ที่ความช้ามันมิได้แลกเปลี่ยนกับเฉพาะความแน่นอนเท่านั้น  หากแต่แถมสิ่งอื่นมาด้วย  คือ  ความปลอดภัย  ที่เป็นคุณลักษณะสำคัญของเป้าหมายใหญ่

               จงระวังความคิดตัวเองที่คิดวาดหวาดกลัว     “ความที่ช้ากว่า”     ทนไม่ได้กับความ     “อาจจะล้มเหลว”     ที่เราดันไปตั้งกฎกติกาเอาเองว่า     “ฉันพลาดไม่ได้”     ที่หากเป็นเช่นนี้  เราก็จะพลาดจริงๆ

 

               ใจนั้นเป็นประธาน  ถ้าคิดว่าทำได้  ก็ทำได้  ถ้าคิดว่าทำไม่ได้  ก็จะล้มเหลว     เฮนรี่ อีเมอร์สัน ฟอสติก  กล่าวว่า 

 

    “ทุกวันนี้โลกหมุนเร็วมาก  จนกระทั่งผู้ที่พูดว่าทำไม่ได้  ถูกก่อกวนโดย คนที่กำลังพยายามจะทำ”

 

               “การถูกหามเปลลงจากเวทีสังเวียน ต่อให้แพ้  มันเท่กว่าการไม่ขึ้นชกหลายขุม” 

 

 ผู้เขียนรับรองว่า  การบ้านที่เราทำมาเป็นปึกๆก่อนขึ้นเวทีนั้น  ยังไงๆไม่เสียเปล่าแน่นอนครับ.

 

  

22   พฤศจิกายน   2548