<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_shoes_suitable_thai.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> รองเท้าที่เหมาะสมกับการวิ่งสำหรับคนไทย

 

 

รองเท้าที่เหมาะสมกับการวิ่งสำหรับคนไทย

 

                รองเท้าที่สวมใส่สำหรับวิ่งมีความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่ง  ที่จะป้องกันและรักษาการบาดเจ็บจากการวิ่ง  จริงอยู่รองเท้าคู่หนึ่ง  ขนดหนึ่งไม่ได้เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกๆ คน  ถึงแม้ความเจริญก้าวหน้าของรองเท้าในปัจจุบันจะได้ออกแบบใหม่ๆ และเนื้อรองเท้า ให้มีความปลอดภัยในการวิ่งมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง  ความอ่อนนิ่มยืดหยุ่นและการดูดซับแรงกระแทก

                  ก่อนที่จะไปถึงการเลือกรองเท้าที่สวมใส่  สำหรับวิ่งขอให้นึกถึงว่าเราเป็นคนไทย  รูปเท้า  ฝ่าเท้าของเราอาจไม่เหมือนชาวต่างชาติ  ดังนั้น รองเท้าจากต่างประเทศอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะสำหรับเราก็ได้

                  จากผลงานวิจัยฝ่าเท้าของคนไทย 2,000 เท้า และนักีฬาไทยทุกระดับความสามารถ ( นักเรียน อุดมศึกษา ทีมชาติ ) โดยข้าพเจ้า ศาสตราจารย์นายแพทย์สิทธิ์  เตชะกัมพุช และอาจารย์ที  ดอนโพธิ์งาม  พบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเลือกรองเท้าสำหรับสวมใส่ดังนี้

                 1. เกี่ยวกับส่วนนำของเท้า  ซึ่งได้แก่  หัวแม่เท้าหรือนิ้วชี้นั้น  ผลของการวิจัยบอกได้ว่า  พวกที่มีหัวแม่เท้าเป็ฯส่วนนำมีประมาณ 40-50%   และพวกที่มีทั้งหัวแม่เท้าและนิ้วชี้เป็นส่วนนำ ( เท่ากัน) มีประมาณ 10-15% ประโยชน์ที่น่าจะได้จากผลการวิจัยนี้  ได้แก่การออกแบบรองเท้า  ควรให้มีส่วนนำของรองเท้าค่อนมาทางหัวแม่เท้ามากกว่าที่จะอยู่กลางๆ  เพราะจะทำให้เกิดการบีบเบนหัวแม่เท้าไปทางด้านนิ้วก้อย  ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อนิ้วเท้าหรือเกิดการเสื่อมของข้อต่อนิ้วเท้าได้

                 2. ความยาวของเท้าเป็นประมาณหนึ่งในเจ็ดเท่าของความสูงของบุคคลนั้น  กล่าวคือ  หากทราบความสูงของบุคคลนั้น  ก็สามารถทราบความยาวของฝ่าเท้าได้ทันที

                 3. ในขณะยืนรับน้ำหนักตัวเต็มที่นั้น  นิ้วก้อยไม่สัมผัสกับพื้นถึงร้อยละ 20-30% ซึ่งแสดงว่านิ้วก้อยมิได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการยืนรับน้ำหนักอย่างนิ้วอื่น ๆ ของเท้าจำนวนไม่น้อย

              4. ส่วนกว้างสุดของรอยฝ่าเท้าตามแนวเฉียงระหว่างนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วก้อย  กับส่วนกว้างสุดบริเวณส้นเท้า  มีอัตราส่วนประมาณ 1.8 : 1  ความสัพันธ์อันนี้  น่าจะนำมาเป็นประโยชน์ในการออกแบบรองเท้ากล่าวคือ  ควรให้มีความกว้างสุดตามแนวเฉียงระหว่างนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วก้อยมีความกว้าง 1.8 เท่า  ของความกว้างสุดของส้นเท้า  ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการบีบคับฝ่าเท้า โดยเฉพาะขณะเดินหรือวิ่ง

               5.ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างส่วนสูงของความโค้งของฝ่าเท้ากับน้ำหนักตัวของผู้นั้น  ฉะนั้น  ความเชื่อที่ว่าคนอ้วนมักมีอุ้งฝ่าเท้าแบนนั้น  จึงไม่เป็นจริงเสมอไป

              

  เมื่อได้ทราบอาจเป็นแนวทางสำหรับคนไทยเราเแล้ว  รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีลักษณะดังนี้

            

                 1.ความพอดี ( ฟิต)

                   เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกที่สุดที่ต้องเลือกสวมรองเท้าที่พอดีไม่แคบ ไม่บีบรัดส่วนใดของเท้า  รองเท้าที่ผิดๆ มักจะยาวและแคบทำให้บีบรัดส่วนกว้างที่สุดของฝ่าเท้าและเกิดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้

                2. เชือกรัดรองเท้า

                     ควรอยู่ตรงกลางและปล่อยส่วนปลายเท้าให้ว่างเว้นไว้จะดีกว่า  ใช้เชือกรัดรองเท้ายาวจากปลายมาตลอด  ถึงแม้จะปรับความพอดีของรองเท้าได้แต่เมื่อวิ่งนานๆ หรือระยะไกล  การเสียดสีหรือถูไถของเชือกบริเวณปลายเท้าส่วนที่เขย่งเมื่อวิ่งจะทำให้เกิดผิวหนังพุพองได้

                3. ส่วนหุ้มส้นเท้าที่ยกสูงขึ้นมาควรมีหรือไม่

                     ขณะวิ่งเมื่อเขย่งเท้าโดยข้อเท้ากระดกลงจะทำให้ส่วนที่ยื่นบนหลังส้นเท้านั้นกดที่เอ็นร้อยหวายพอดี  วิ่งนานๆ ทำให้เกิดการอักเสบของตัวเอ็นหรือปลอกหุ้มเอ็นของเอ็นร้อยหวายได้  เมื่อมีปัญหาเช่นนี้ให้ตัดออกเสียเลย   หรือตลบลงด้านหลังหรือผ่าตัดแยกเสียเลย

                4.พื้นส้นเท้า

                    พื้นส้นเท้าสำหรับนักวิ่งต้องกลม  เพราะส้นเท้าเรากลมถ้าไม่ฟิตพอดีทำให้ไม่มีความมั่นคงของส้นเท้า  จะเกิดการบาดเจ็บตามมาและเจ็บหลังส้นเท้าควรแข็งและแน่นเพื่อความมั่นคงของส้นเท้าเช่นกัน

                5. พื้นรองเท้า

                       พื้นชั้นในที่รองรับฝ่าเท้า ควรนิ่มและยืดหยุ่น และมีส่วนนูนรับอุ้งเท้าเพื่อให้ฟิตพอดี  พื้นด้านนอกแข็งแต่บริเวณกึ่งกลางควรยืดหยุ่นและหักงอได้  และมีที่ยึดเกาะพื้นได้ดี  ไม่ราบเรียบจนลื่น

                   6. พื้นรองเท้าบริเวณส้นเท้าอาจเฉียงขึ้น  เพื่อความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวก้าวเท้าขณะวิ่ง

                 7. รองเท้าวิ่งควรมีส้นสูงเล็กน้อย                  ประมาณ2เซ็นติเมตรทั้งนี้เพื่อแบ่งเบาการทำงานของเอ็นร้อยหวายและกล้ามเนื้อต้นขา 

                  8. วัสดุที่ห่อหุ้มรองเท้า

                        ไม่ควรแข็ง  เพราะจะเกิดการเสียดสี  ทำให้ร้อนและผิวหนังพองได้  ไม่ว่าจะเป็นหนัง ผ้าใบ หรือไนล่อน  ควรยืดหยุ่น  นิ่มและระบายความร้อนได้ดี

                 9. น้ำหนักรองเท้า

                       ถ้าหนักก็มีความมั่นคงดี  แต่วิ่งได้ช้า  ดังนั้น  การเลือกใส่  นอกจากความพอใจในน้ำหนักความพอดีแล้ว   ถ้าแข่งขันใช้น้ำหนักเบา  ก็จะทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น

                      เมื่อใส่วิ่งแล้วควรตรวจดูและซ่อมแซม  การชำรุดสึกหรอเพื่อไม่ให้ผิดรูปไป  ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย

 

( หนังสือบาดเจ็บจากการวิ่ง  โดย...รศ.นพ.ธีรวัฒน์  กุลทนันทน์  )                

 

ผู้เยี่ยมชม ตั้งแต่ 26 มิ.ย.44<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>  

 

บทความดีๆมากมายเกี่ยวกับเลือกรองเท้าวิ่ง
และการบาดเจ็บต่างๆคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

www.thairunning.com

รองเท้าวิ่ง

ตรวจสุขภาพคุณ ด้วยการเดิน

ผู้สูงอายุ กับ การออกกำลังกาย

การซ้อมวิ่งระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ

อาหารช่วงฝึกซ้อม