กฎ9ข้อกับหนทางสู่ชัยชนะ

 

1)เตรียมตัวให้พร้อม

 

1)พยายามรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการแข่งขันรายการนั้น เส้นชัยอยู่ที่ใด มีทางขึ้นเนินลาดชันตรงไหนบ้าง อากาศในวันนั้น ลมแรง ฝนตก ฯลฯ ถึงแม้ว่านักวิ่งทุกคนจะต้องพบอุปสรรคนี้เช่นเดียวกับเราเหมือนกันก็ตาม แต่ถ้าเรารู้ตัวล่วงหน้า อย่างไรเสียก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าแน่นอน อย่าขวัญเสียเมื่อเห็นผู้แข่งขันฝีเท้าดีๆมาวิ่งในรายการเดียวกัน เขาอาจจะฝีเท้าตกในวันนั้น หรือตัวเราเองก็อาจจะดีขึ้นกว่าการแข่งขันในครั้งก่อนๆนั้นก็ได้นี่นา

ข้อสำคัญ ทบทวนและนึกถึงข้อผิดพลาดในการแข่งขันครั้งที่แล้วให้ดีก็แล้วกัน

2)อย่าคาดการณ์ล่วงหน้า

อย่าเพิ่งคิดหรือเชื่อตนเองว่า เราเป็นนักวิ่งประเภทใด จนกว่าจะพบสูตรที่แน่นอน อันจะนำมาซึ่งผลแห่งความสำเร็จ อย่าบอกตัวเองว่า เราไม่ชอบวิ่งในอากาศแบบนี้ ไม่ชอบลงแข่งในระยะทางขนาดนี้ หรือเราคงทำPR ไม่ได้ดีกว่าครั้งที่แล้วเป็นแน่ เพราะผลที่จะตามมาคือความกลัว ความขี้เกียจและความท้อแท้ บางครั้ง ยังไม่ทันจะเริ่มต้นการแข่งขันเลย เราก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเสียแล้ว แต่พอออกตัวได้ กลับวิ่งได้ตัวปลิวเลยก็มี นั่นแปลว่าตัวเราได้หลอกตัวเองเข้าแล้ว แต่ถ้าหลังการแข่งขัน ปรากฏว่า เราเหนื่อยสุดๆจริงนั่นแหละ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมาค้นคว้าหาสาเหตุกันต่อไปว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้เหนื่อยหนักหนาสาหัสปานนี้ บางทีร่างกาย หรือสุขภาพของเราอาจถึงจุดที่จำเป็นจะต้องได้รับการหยุดพักผ่อนชั่วคราวก็เป็นได้

3)พักเสียบ้าง

จัดหาเวลาหยุดพักเสียบ้าง ทั้งตั้งใจพักตามโปรแกรมซ้อมที่วางไว้ และหรือพักโดยมิได้ตั้งใจ หลังจากเหน็ดเหนื่อยมากับการแข่งขันพอสมควรแล้ว ถ้ายังรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า อ่อนเพลีย หรือยังไม่พร้อมที่จะฝึกซ้อมต่อไป จงหยุดพักทันที(แต่ต้องแยกให้ออกว่า ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ) อย่าห่วงโปรแกรมที่วางเอาไว้ เสียเวลาพักตอนนี้เพียง1อาทิตย์ ก็ยังดีกว่าที่จะต้องหยุดเมื่ออาการหนักแล้ว4อาทิตย์เป็นต้น

4)คิดในทางที่ดีเข้าไว้

อย่าเพิ่งด่วนคิดในแง่ลบ อย่างไรเสียก็คงไม่มีหวัง แพ้เห็นๆอยู่แล้ว ตัวเก็ง 1 2 3 4 ฯล้วนมากันพร้อมหน้า เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าเพิ่งลงดีกว่า  ถ้ามีความคิดเช่นนั้น ก็เห็นจะต้องหนีหริอหลบหลายๆการแข่งขันตลอดไป

5)ทดลอง

พยายามทดลองทำอะไรแปลกๆดูบ้างในการแข่งขันครั้งใหม่นี้ เช่นทดลองวิ่งอย่างเร็วแซง”เซียน”คนนั้นดู ทำให้มันเป็นที่แปลกใจเล่นแม้กระทั่งตัวเราเอง บางทีเราอาจพบวิธีหรือเคล็ดอะไรใหม่ๆที่จะเหมาะสำหรับตัวเราเองโดยบังเอิญก็ได้ ใครจะรู้ การลองวิ่งเร็วๆในการแข่งขันเท่ากับทดลองหาจังหวะการวิ่งที่ถูกต้อง ในความเป็นจริง หลังจากออกสตาร์ทได้3-4กม.แล้วน่าจะเป็นช่วงจังหวะที่วิ่งได้ดีที่สุด ทดลองใช้วิธีที่เคยเห็นหรือเคยได้ยินเขาพูดกันมาดู ในที่สุดเราก็จะพบวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเราเอง

6)เกาะ

อย่าทำตัวเป็นนักวิ่งระดับพื้นๆที่เพียงต้องการไปให้ถึงเส้นชัยเท่านั้น พยายามเกาะติดคู่แข่งไปให้ได้ พร้อมทั้งตั้งใจอยู่เสมอที่จะเอาชนะเขา

บางครั้งเป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามาก ที่จะปล่อยให้ผู้อื่นทำงานแทนเรา นั่นคือ เกาะหลังใครสักคน ให้เขาเป็นผู้ทำจังหวะวิ่งให้ เกาะติดไปจนคิดว่าเรายืนระยะได้แล้วและน่าจะวิ่งได้เร็วกว่าแล้ว ก็ค่อยๆเร่งฝีเท้าฉีกผ่านไป จับจ้องนักวิ่งที่อยู่ข้างหน้าใหม่ สร้างจินตนาการว่า  มีเชือกผูกโยงอยู่ระหว่างเขาบเราและทำราวกับว่า เขาเป็นผู้ดึงให้เราวิ่งเข้าหา จนกระทั่งเราวิ่งขึ้นมาตีคู่กับเขาได้ ฉีก แล้วจ้องนักวิ่งที่อยู่ข้างหน้าต่อไปอีก

วิธีนี้ มีดีอีกอย่างตรงที่ จิตใจเราจะไม่พะวงอยู่กับการแข่งขัน เวลาที่ทำได้จะดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว

7)ไม่ลงทุน ก็ไม่ได้กำไร

เหน็ดเหนื่อยเพียงไร ก็ต้องกัดฟันต่อสู้กับความเหนื่อยนั้น ขอเน้นตรงคำว่า เหนื่อย ไม่ใช่ เจ็บ หรือ ปวด  เกาะกลุ่มหน้าให้อยู่ ถ้าปล่อยให้เขาทิ้งเราไปได้ หากเขาไม่เจ็บหรือหมดเสียก่อน เราไม่มีทางจะไล่เขาให้ทันได้อีกเลยสำหรับการแข่งขันในวันนั้น

8)กระตุ้นพลังงานภายใน

พลังงานและความมั่นใจมักจะมาจากการแข่งขันมากกว่าจะมาจากการฝึกซ้อม ถ้าเราชอบหรือถนัดที่จะลงแข่งในระยะ10กม. ควรหาโอกาสลงแข่งในระยะ5กม.และ21กม.บ้าง เพราะจากระยะ21กม.เราจะได้กำลังและความแข็งแรง ในขณะที่ระยะ5กม.จะทำให้เราได้ความเร็วเพิ่มขึ้น

อย่าฝึกซ้อมวิ่งด้วยความเร็วสม่ำเสมอทุกวัน อาทิตย์ละ1วันควรซ้อมวิ่งเร็ว400เมตร แล้วเหยาะช้าๆ ทำสลับกัน7-8ครั้ง อาทิตย์ต่อๆมา พยายามตัดเวลาที่ใช้ในการเหยาะให้สั้นเข้าๆ ความเร็วของเราจะเพิ่มขึ้นมาเอง

9)อย่ายอมแพ้

พลาด เกิดขึ้นได้กับทุกคน ถึงแม้ว่าปีนี้ทั้งปีจะพลาดตลอด และยังไม่พบความสำเร็จเลยก็ตาม นั่นไม่ได้แปลว่าเราแพ้ ขอให้มีความมั่นใจในตัวเองว่า ปีหน้าเราจะต้องทำได้ดีกว่าปีนี้ก็แล้วกัน

 

กฏทั้ง9ข้อนี้ ไม่เหมาะสำหรับนักวิ่งเพื่อสุขภาพ หรือนักวิ่งที่ต้องการวิ่งเพื่อความสนุก เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยเท่านั้น แต่เป็นข้อที่พึงปฏิบัติ สำหรับนักวิ่งที่มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ

ขอให้พบกับชัยชนะในที่สุดครับ

 

(หมายเหตุ.-ขอขอบคุณ คุณมนู ตันกุลรัตน์ ที่ส่งบทความนี้มาให้ thairunning.com )