ชื่อ  นายปกรณ์  จันทร์เจริญ

      อายุ 33 ปี

      น้ำหนักปัจจุบัน 83-84

      ส่วนสูง  181 ซม.

      เคยหนักก่อนออกกำลังกาย ประมาณ 95 กิโลกรัม

      เป้าหมายที่ต้องการ  75-80 กิโลกรัม    

 

          จุดเริ่มต้นของการออกกำลังกาย  เนื่องจากได้มีโอกาสทดสอบพิชิตเขาล้อมหมวก ที่จังหวัดประจวบ ผลที่ได้รับคือ เกิดอาการขาอ่อน และรู้สึกมึนๆหัว หมดแรง ในระยะทาง 3 ใน 5 ของระยะทางทั้งหมด จึงต้องหยุดพักและไม่สามารถขึ้นเขาต่อได้ และมาคิดว่าร่างกายคงไม่ไหวแล้ว เพราะขาดการออกกำลังกายมาหลายปี น่าจะ 4-5 ปีได้ มีแต่การยกดัมเบลบ้าง แต่ไม่เคย ออกแบบแอโรบิคเลย (น้ำหนักตัวประมาณ 87-88 กิโลกรัม)

จึงตัดสินใจหันมาเริ่มออกกำลังกายโดยการวิ่ง ในเดือนธันวาคมปี 2552 ในระยะแรกออกกำลังกายได้เพียง 2-3 กิโลเมตร อาทิตย์ละ 3 วัน ใช้เวลาในแต่ละวันก็ 20-30 นาที จนปลายเดือนมกราคม 53 วิ่งต่อเนื่องได้ 30 นาที ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร และบางครั้งก็ได้ถึง 5 กิโลเมตรใช้เวลาก็ 35 นาที

จนมีงานวิ่งมินิมาราธอนสามอ่าว ที่จังหวัดประจวบฯ จัดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 จึงตัดสินใจลงวิ่งทดสอบ มินิมาราธอน เป็นครั้งแรกสามารถเข้าเส้นชัยได้ในระยะ 10 กิโลเมตร ในเวลา 1 ชั่วโมง 6 นาที

หลังจากนั้นก็ซ้อมวิ่งมาเรื่อยๆครับ ก็สามารถวิ่งได้เยอะขึ้น เร็วขึ้นนิดหน่อย แต่น้ำหนัก ยังคงเท่าๆเดิม คืออยู่ที่ 86-89 กิโลกรัม สามารถวิ่งต่อเนื่องได้ราวๆ 40 นาที เดือน มิถุนายน 53 จึงลงวิ่งอีกที่หัวหิน งาน Olympic day run ระยะทาง 12.8 km ครับ เข้าเส้นชัยด้วยเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที และหลังจากงานวิ่งแล้ว ก็ซ้อมมาเรื่อยๆ ครับ วันละ ประมาณ 40 นาที ครับ ระยะทางก็ได้เท่าๆ เดิม น้ำหนักก็อยู่ที่เท่าๆเดิมไม่ค่อยลดครับเพราะรับประทานเช่นเดิม คือไม่ได้ควบคุมอาหาร ตอนเย็นก็ทานเยอะอยู่เหมือนกันครับ

 จนมาถึงเดือน ตุลาคม 53 เริ่มออกกำลังกายแบบมีระบบมากขึ้นครับ คือ วิ่งอาทิตย์ละประมาณ 4 วัน และบันทึกข้อมูลการวิ่งไว้ครับ โดยจะวิ่งเฉลี่ยแล้ว 6-10 กิโลเมตรต่อวันครับ ดูจากวันหนักเบาที่ผ่านมาปรับ หนักบ้าง เบาบ้างครับ ก้อรู้สึกวิ่งได้ดีขึ้นครับ และเริ่มกินอาหารตอนเย็นน้อยลงบ้าง ลดพวกคาร์โบไฮเดรต แต่ก็ยังทานอิ่มอยู่ครับ อาจทานเนื้อเพิ่ม หรือพวกผักครับ

 แต่ระยะนี้เริ่มตัวเบาขึ้น แต่ลดนิดหน่อยครับไม่ค่อยเห็นผล ผมเดาเอาว่าเมื่อก่อนที่น้ำหนักเยอะ จะเป็นพวกไขมันที่สะสมอยู่ แต่พอมาออกกำลังกาย หลายๆเดือนเข้า จนเกือบปีนั้น พวกไขมันคงสลายไปบ้างแต่กลับกลายเป็นกล้ามเนื้อแทน ซึ่งเคยศึกษาหาอ่านดูนั้น เขาว่ามวลกล้ามเนื้อหนักกว่า ไขมัน ก็เลยคิดว่า ไขมันที่สะสมไว้อาจลดไปแล้ว แต่ได้กล้ามเนื้อมาแทนตรงส่วนต้นขานะครับ น้ำหนักเลยเท่าๆเดิม ก็เหลือที่พุงครับ ที่ไม่ค่อยเห็นผลตรงส่วนพุงด้านบนไม่มีไขมันสะสมเท่าไหร่ครับแต่ตรงเอวก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับลงพุงครับ ผมว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่เอาไขมันออกยากสุดครับ เพราะตรงอื่นมองจะเฟิร์มๆ แต่ตรงพุงก็ยังเท่าๆเดิมครับไม่ค่อยเห็นผลว่ามันลดเท่าไหร่

ช่วงหลังนี้ผมเริ่มเข้ามาศึกษาวิธีการวิ่งและสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการซ้อม การดูและเลือกรองเท้าวิ่งที่ Thairunning.com จึงมีความรู้ขึ้นพอสมควร และได้พบเห็น ผลิตภัณฑ์ Hi-balanze จึงทดลองสั่งซื้อมารับประทานควบคู่ไปกับการออกกำลังกายครับ โดยซื้อครั้งแรกราวๆปลายเดือน พฤศจิกายน 2553 ครับ

          เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ Hi-balanz ราวๆ ปลายเดือน พ.ย 53 หมดประมาณ ปลายๆ เดือน ธันวาคม 53 โดยรับประทาน เช้า 2 เม็ด และก่อนออกกำลังกายตอนเย็น ครึ่งชั่วโมงอีก 2 เม็ดครับ และตอนเย็นก็ควบคุมอาหารนิดหน่อยครับ คือผมลดพวกข้าว กินให้น้อยลง แต่กินพวกกับข้าว และผักผลไม้มากขึ้น แต่ก็กินอิ่มนะครับไม่เคยอดเลย ปรากฏว่าปลายๆ เดือนธันวาคม 53 น้ำหนักก็ลดประมาณ 1-2 กิโลกรัมครับ

 แต่ช่วงนี้การออกกำลังกายของผม เข้มข้นขึ้นครับ ช่วง ตุลาคม ค่อยๆเพิ่มระยะทางวิ่ง มาครับ วันละประมาณ 45 1 ชั่วโมงและสลับกับการว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาครับ ซึ่งการว่ายน้ำส่วนมากอาทิตย์ละประมาณ 2 ครั้งครับ ครั้งละ ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ

ส่วนในเดือนธันวาคม 53 นั้น ส่วนมากจะวิ่งประมาณ วันละ 1 ชั่วโมง ครับ ระยะทางที่วิ่งต่อวันก็คือ 8-10 กิโลเมตรต่อวันครับ ซึ่งใน 1 อาทิตย์ จะวิ่ง 4 วัน หยุด 3 วันครับ มีวิ่งยาวในวันอาทิตย์บ้าง ระยะทางก็ 15-17 กิโลเมตรครับ พอก่อนถึงปีใหม่ 54 ผมรับประทาน Hi-balanze ชุดแรกหมด ผมจึงสั่งมาอีกชุดหนึ่งครับและรับประทานเช่นเดิมครับ ก่อนออกกำลังกาย ครึ่งชั่วโมง 2 เม็ด แต่ตอนเช้าจะลดเหลือทาน 1 เม็ด ครับ

แต่การซ้อมวิ่ง ก็สม่ำเสมอคือ ประมาณ 1 ชั่วโมงแบบต่อเนื่องครับ ไม่ได้วิ่งเร็วอะไรมากมายครับ 1 ชั่วโมงก็ 9-10 กิโลเมตรครับ ตอนนี้น้ำหนักประมาณ 83-84 กิโลกรัมครับ ลดจากเดิมอยู่ที่ 3-4 กิโลกรัมครับ และเริ่มรู้สึกว่าไขมันตามสะโพกเริ่มยุบไปบ้างครับ 

 ล่าสุด 16 มกราคม 2554 นี้พึ่งไปทดสอบลงฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ที่จอมบึงครับ วิ่งเรื่อยๆ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 39 นาที ซึ่งตอนนี้ก็มีความสุขครับกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทั้งวิ่งและว่ายน้ำ การซ้อมที่สม่ำเสมอทำให้เรามีความทดทานและแข็งแรงขึ้นครับ ปลายปีนี้ผมว่าจะซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่ออยากจะพิชิตการวิ่งเต็มมาราธอนซักครั้งครับ

 ผมมีบันทึกการวิ่งไว้ด้วย เริ่มบันทึกที่เดือนตุลาคม 53 หากต้องการบอกผมได้นะครับ

                                        ขอบคุณครับ

 Thursday, January 20, 2011 3:17:39 AM