ใครคนหนึ่งเอาสมุดรายงานสุขภาพประจำปีมาอวด (ที่บริษัทเรา นี่จะจัดให้พนักงานทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพโดยแพทย์จากโรงพยาบาลมาตรวจกันที่บริษัททุกปี ถือเป็นสวัสดิการ ก็ยังอุตส่าห์มีหลายคนไม่ยอมมาตรวจ กลัวหมอไง)
รายงานนี้สรุปและเสนอแนะว่าผลการตรวจร่างกาย, ตรวจเอ็กซเรย์ปอด, ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด, ตรวจการทำงานของไตและตับ, ตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ผลอยู่ในเกณฑ์ปกติ
มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ดี
อ่านจบเหลือบตามองเขาแว้บ ๆ (แบบไม่ให้เจ้าตัวรู้สึก)แกล้งเปรยเบา ๆ ว่า ดูเขาน่าจะ สมบูรณ์ มากไปหน่อยมั้ง ก็น้ำหนักตั้ง 78 กิโลกรัม สูง 170 เซนติเมตร (ลำตัวยังกะ แชมเปญ ต้นปาล์มแชมเปญน่ะนะไม่ใช่ แชมเปญเอ็กซ์ หรอก) น่าจะมีอะไร ๆ บ้างนา
จริง ๆ แล้วผมเป็นคนเหนื่อยเร็วนะ เดินไม่ไกลเท่าไหร่ก็หอบ เล่นปิงปองสักเกมก็เหนื่อยแล้ว นั่นคือคำสารภาพของชายผู้มี สุขภาพ ร่างกาย แข็งแรง สมบูรณ์ดี ตามสมุดรายงานสุขภาพ
คุณเห็นด้วยไหม ถ้าปอมอจะวินิจฉัยว่า เป็นเพราะขาดการออกกำลังกายนั่นเอง
หรือจะใช่มั้ง ก็ผมต้องนั่งทำงานหน้าคอมพ์ทั้งวัน เย็นลงถึงย้ายมานั่งเล่นหน้าขวด หาเวลาออกกำลังไม่ได้เลย
จึงบอกเขาไปว่า ไม่ต้องมั้งหรอก มันใช่เลยทีเดียวแหละ
การออกกำลังกายเป็นความจำเป็นของมนุษย์ทุกคน (ที่อยากมีสุขภาพดี )
จริง ๆ
แต่อ่านเรื่องนี้ก่อน
นายเคน คูเปอร์ นักกายบริหารเจ้าตำรับการออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค เคยลองศึกษาเรื่องการออกกำลังกาย โดยดูจากสถิติของผู้เข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อสองปีก่อน พบว่า ในจำนวนผู้สมัครเข้าวิ่งแข่ง 2,300 คน จะมีถึง 1 ใน 7 ที่จะมีอาการป่วยไข้ ภายหลังการแข่งขันไปแล้วหนึ่งสัปดาห์
เขาลองเทียบตัวเลขดูกับนักวิ่งที่ซ้อมมาบ้างและไม่ได้ลงแข่งด้วย ปรากฎว่ามีจำนวนผู้เจ็บไข้ได้ป่วย (ของพวกหลังนี่) น้อยกว่าถึง 6 เท่า
นายคูเปอร์พบว่า นักวิ่งที่ไหนซ้อมหนัก ในหนึ่งสัปดาห์ซ้อมวิ่งเป็นระยะทางไกลกว่า 100 กิโลเมตร กลับป่วยมากกว่าคนที่ซ้อมวิ่งรวมระยะทางแค่ 32 กิโลเมตรในเวลาเท่ากันเสียอีก
จึงสรุปออกมาได้ว่า การออกกำลังกายมากเกินไปอาจเกิดโทษก็ได้ คือทำให้ภูมิคุ้มกันโรคถูกกด ทำให้แรงต้านทานโรคอ่อนลง
แล้วจะออกกำลังแค่ไหนเล่าจึงจะพอดี
นายเคน คูเปอร์ เจ้าตำรับเต้นแอโรบิคบอกว่า กำหนดตายตัวไม่ได้หรอก ต้องขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ๆ ไป
มีรายงานผลการศึกษาเรื่องการออกกำลังนี้ฉบับหนึ่งบอกว่า การออกกำลังพอดี ๆ จะช่วยสนับสนุนภูมิกันโรคให้แข็งแรง
มีตัวอย่างว่า การเดินออกกำลังกายวันละ 45 นาที จะลดอัตราการป่วยเป็นไข้หวัดเจ็บคอลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้เดิน
รำกระบองตามท่าที่อาจารย์สาทิสสอนให้เป็นประจำทุกวัน ก็ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงได้จริง ๆ นะ
สรุปของเรากันเองก็คงจะอยู่ที่ว่า การออกกำลังกายนั้นจำเป็น และต้องทำเป็นประจำ แต่ต้องทำให้พอเหมาะพอควรตามสภาพร่างกายของแต่ละคน มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์
คล้ายคำพังเพยของไทยไง
รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ
(เรื่องเดียวกันไหมเนี่ย)
กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเคล็ดลับ 9 ประการเพื่อให้ประชากรไทยมีอายุเกิน 100 ปี ดังนี้
อาบน้ำทุกวัน แปรงฟันสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
กินอาหารสุกและสะอาดวันละ 3 มื้อให้ครบ 5 หมู่อย่างหลากหลาย
ออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที
ดื่มน้ำสุก สะอาด อย่าให้ขาด วันละ 6-8 แก้ว
พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง ปลอดโปร่ง แจ่มใส
งดสิ่งเสพย์ติด คบหาญาติมิตร ใกล้ชิดครอบครัว
ดูแลบ้านเรือน ของใช้ เสื้อผ้า ใหห้สะอาด
ตรวจสุขภาพปีละครั้งเป็นอย่างน้อย
ฝักใฝ่ธรรมะ
ถามจริง ๆ เหอะ
คุณอยากอยู่ถึงร้อยปีไหม
(จากนิตยสาร ชีวจิต .ปีที่..1 ฉบับที่..9 ..16 ก.พ42.)