ผู้ส่ง
ข้อความ
moki
ทุก ๆ คนที่เคยเข้าแข่งขันใน Triathlon หรือ Duathlon จะมีความรู้สึกหวาดกลัวที่สุดที่จะถูกจำกัดการใช้พลังงานและการใช้กำลังกำลัง เช่นเดียวกับหลังจากการขี่จักรยานแล้วเปลี่ยนมาวิ่ง คุณพยายาม และมีความอยากรู้สึกเป็นอิสระในการวิ่งที่เป็นรูปแบบของตัวคุณเอง ที่เคยวิ่ง
โดยการใช้การปฎิบัติและรวบรวมทุกอย่างให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งให้เป็นมาตรฐานของตัวคุณเอง ในการพัฒนาฝึกหัดอย่างต่อเนื่อง จะทำให้คุณสามารถปรับปรุงสไตล์การวิ่งของคุณได้ ในไตรกีฬา มารู้จักคำว่า
The Heavy-Leg Syndrome
ก่อนอื่นเรามาทำการพิจารณาหาสาเหตุของการเกิดโรค Heavy-Leg Syndrome กันก่อน ในเบื้องต้น มีเหตุผลทางกายภาพอยู่ 2 อย่าง คือ ทำไมกล้ามเนื้อขาของคุณถึงได้มีการทำงานลดลงประสิทธิ์ภาพหายไป เหมือนตอนทีคุณทำการเปลี่ยนจากการขี่จักรยาน Transition มาเป็นการวิ่ง
โปรดติตามตอนต่อไป
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 18, 2009 3:17 pm
3G_riz
เข้ามาจองเลย ตอนนี้หาอ่านการฝึกตรงนี้อยู่เลยครับ
_________________If you wish to be out front,
then act as if you were behind
Lao-Tzu, 6th Century B.C.
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 19, 2009 11:51 am
moki
เหตุผลแรก เมื่อคุณขี่จักรยาน เส้นเลือดใหญ่จะส่งเลือดลงไปเลี้ยงที่บริเวณเท้า จากที่เคยรู้เกี่ยวกับศาสตร์ทางด้านสรีระนั้น Vasodilatory มีผลกับเส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงยังกล้ามเนื้อ เมื่อเริ่มวิ่งคุณจึงรู้สึกว่ามีเลือดสูบฉีดบริเวณนั้น ฉะนั้น การปล่อยให้ quals ทำงานหนักบ่อย ๆ จนเลือดไหลไปยังกล้ามเนื้อมากไป จึงทำให้มีผลโดยตรงต่อการวิ่ง (เอ็นร้อยหวายและน่อง)
เหตุผลที่สอง เกิดกับผู้แข่งขัน จนอาการใกล้เคียงผู้ป่วยเกี่ยวระบบเส้นประสาท เข้าใจง่าย ๆ คือ เมื่อคุณขี่จักรยานอย่างหนักในช่วงเวลาสำคัญ ๆ สมองคุณจะส่งคำสั่งลงไปยังประสาทเพื่อสั่งการให้กล้ามเนื้อขาให้ทำการปั่น แล้วในส่วนที่สอง ก็จะสั่งให้ขาทั้งสองคอยที่จะรับน้ำหนักของร่างกายตอนที่วิ่ง จึงทำให้มีการตอบสนองโดยการทำงานให้ได้ตามคำสั่งที่ส่งไปทั้งสองทาง ส่วนจะทำคำสั่งไหนก่อนนั้นร่างกายของคุณไม่มีโอกาสที่จะตอบสนองได้อย่างเหมาะสม อันนี้จึงเป็นเหตุสนับสนุน ในรถไตรกีฬาที่ออกแบบมาคล้ายการวิ่ง(อ่านต่อเมื่อมีเวลา จะมาพิมพ์ต่อ ครับ)
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 19, 2009 8:56 pm
3G_riz
พี่รบกวนแปลศัพท์เทคนิคด้วยนะครับ
อ่านแล้วยิ่งมึน
ขอบคุณครับที่นำความรู้ดีๆมาฝาก
_________________If you wish to be out front,
then act as if you were behind
Lao-Tzu, 6th Century B.C.
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 20, 2009 2:16 pm
moki
I'm not sure its correct or not becuse the word of this story very hard to understand(word for Doctor)
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 20, 2009 10:12 pm
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 20, 2009 10:30 pm
moki
In Training
กล่าวถึงช่วงการฝึกฝนขั้นพื้นฐานของ คุณจะต้องมีจิตใจแน่วแน่ในการฝึกฝนภายใน 1 อาทิตย์ กล่าวถึง Brick session (หมายถึงการปั่นจักรยานพอประมาณ แล้วต่อด้วยการ moderately long run ในช่วงกลางอาทิตย์)จะช่วยให้ขาของคุณมีความเคยชินในการใช้งานและสามารถควบคุมประสาทและการสูบฉีดของเลือดที่ไปกล้ามเนื้อ เพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น โดยปราศ จากหรือลดจากการความกดดันจากการแข่งขันลงบ้าง
หากเริ่มมีการฝึกฝนตอนใกล้จะแข่งขัน Brick ของคุณสามารถถูกแทนที่ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยปกติแล้วการแข่งขัน Triathlon จะรวมการแข่งขัน 3 อย่างเข้าด้วยกันตามลำดับ หรือ เป็นรูปแบบผสม และร่างกายคุณจะเริ่มใช้การฝึกฝนที่ได้ทำตั้งแต่ก้าวแรกไปจนทั้ง 3 การแข่งขัน เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่สั้นที่สุด( 3-5 นาที) ยังไม่จบว่างๆ พิมพ์ต่อ จริงๆ พอทราบแต่ต้องการ บทความที่ Pro พิสูตรแล้วเอา ประสพการณ์เราทำความเข้าใจ รอหน่อย เพื่อ ผู้เล่นใหม่ๆ ได้นำไปใช่ประโยชน์ได้บ้าง
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 20, 2009 10:49 pm
3G_riz
Understood
ชอบกล้ามเนื้อของนักไตรที่พี่โชว์รูปจัง..มันมีดูมีพลัง แต่ไม่ใหญ่โตเหมือนนักเพาะกาย เขาคือใครครับ คนที่ขี่จักรยานคูโบต้า..
_________________If you wish to be out front,
then act as if you were behind
Lao-Tzu, 6th Century B.C.
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 21, 2009 10:02 am
moki
เป็น Triathlon world championship 2 สมัย 2004,2006 Mr.Normann Stadler เป็น Bike Newrecord เคยมาแข่งภูเก็ตลากูน่า บ่อย เหมือน แชมป์โลกคนอื่นๆ จะผ่านสนามนี้ แม้ไม่ได้แชมป์ หรือได้ที่นี่ก็ตาม
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 21, 2009 9:41 pm
moki
คนนี้ึแชมป์ นิวซีแลนด์ หลายสมัย 6 หรือ 7 ครั้งถ้าจำไม่ได้ CAMERON BROWN พวกนี้จะไม่มีกล้ามที่ใหญ่มากเพราะกิน ออกซิเจน สูงไม่ทน และหนักไป อีกคน คนไทยจะใหญ่กว่าฝรั่งนิดหน่อย
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 21, 2009 9:56 pm
moki
ต่อ ถึงไหนแล้วเนี๊ย อ้อ ต่อ การรักษาการเปลี่ยนแปลงให้เหมือนกับ ที่มีการ แข่งขัน, ฟื้นตัว และ ทำการ วนซ้ำ เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดทำได้ 2 -3 ครั้ง ซึ่งช่วงหนึ่งร่างกายของคุณ มีความแข็งแรงในการร่วมแข่งขัน และมีการสอนให้การสูบฉีดเลือดและการเผาผลาญพลังงานของกล้ามเนื้อทำไปอย่างรวดเร็วโดนไม่ตั้งใจ เกินกว่าที่ส่วน Brick จะสามารถทำตามความต้องการได้
ในทางเดียวกัน จากการสังเกตกระบวนการแข่งขันอย่างใกล้ชิด พบว่าในแต่ละครั้งที่คุณลงจากจักรยานแล้วมาวิ่งในระยะสั้น ถึงแม้ว่าจะแค่ 800 เมตร และรักษาระดับการเปลี่ยนแปลงได้ยาก จนกว่าจะพบจังหวะวงรอบของคุณ
ใช้เวลาไม่แน่นอนเหมือนกัน แล้วแต่สนามและการเตรียมการ การเบาขาและความเร็ว ยืนขาผ่อนคลายบนจักรยาน(ระยะสั้นไม่ทำ ทำจะโดนทิ้งไกล) การออกแบบสนาม เช่นบางสนามจะออกแบบใหม่ทุกปี บางคนมุ่งหวังในความเร็วบนจักรยาน ผลมาตกตอนวิ่ง เพราะเหตุการณ์การแข่ง การตัดสินใจวันแข่ง มักไม่เหมือนซ้อม ถึงก่อนแต่ไม่รอดวิ่ง Pro หลายคนผีมือพอๆ กัน ในนาทีนั้นเค้าตัดสินใจ ผิดถูกเช่นกัน บางครั้งชนะ บ้างครั้งไม่ชนะถึงไม่จบการแข่งขัน และถึงหาม ดังนี้ระยะเวลาจังหวะรอบที่คุณต้องการอาจไม่มาในระยะที่ไม่แน่นอน หลายคนถึงเลิกก่อน แม้ Pro ก็ตามเพราะเหตุผล ต่างๆ มากมายตามที่ยกตัวอย่าง ตัดสินใจเปลี่ยนแผน ในเวลาที่สบาย ลืมนึกเวลารำบาก
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 21, 2009 10:22 pm
moki
สรุป จากการสังเกตการณ์จากนักกีฬา Multisport สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแรง นักวิ่งจะต้องมีการดูแลกล้ามเนื้อของพวกเขาเพื่อให้สามารถฝืนวิ่งตามแบบฉบับของผู้วิ่ง ตามจังหวะของผู้วิ่งและให้สอดคล้องคล่องตัวตามแนวทางของตนเองเพื่อให้เกิดความพอดี เน้นความพอดี ของจังหวะที่ก้าวออกไป
เช่นการวิ่งบนเขาต้องการให้คุณใช้ quads ในการวิ่งมากกว่าการใช้ฝ่าเท้า และเคลื่อนไหวโดยการวิ่งแบบวิ่งขึ้นเขาโดยใช้ quads การวิ่งแบบนี้จะต่อเนื่องกว่าการวิ่งบนพื้นราบ นี่จะเป็นผลที่ได้จากการหมั่นฝึกฝนการใช้งานกล้ามเนื้อขาในการวิ่ง และ จะเป็นประโยชน์ในการการวิ่งของคุณซึ่งจะดีกว่าการที่คุณเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น นอกกฎระเบียบวินัย
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 9:35 am
moki
In Competition
ในการแข่ง จริง นัก Triathlon ที่ดีมักปฏิบัติ โดยการที่เริ่มวิ่งก่อนที่จะเปลี่ยนไปขี่จักรยาน จะมีช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม 5-8 นาที ในการที่จะนำจักรยานออกจากช่องจอด และเริ่มปั่น
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 9:45 am
moki
สิ่งแรกที่ควรทำคือ ให้ยืนปั่นจักรยานไปประมาณ 100 เมตร จะช่วยให้กล้ามเนื้อทำการปรับสภาพให้เข้ากับการวิ่ง มันจะทำให้กล้ามเนื้อมีการยืดตัวและทำให้เลือดเริ่มสูบฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อได้
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 9:49 am
moki
ต่อไป ให้นั่งลงที่อานและเริ่มปั่นจากเกียร์ที่เล็กก่อนแล้วเริ่มปั่นด้วยใช้ขาของคุณ จากนั้นให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ที่ใหญ่ขึ้นตลอดระยะทางการแข่งขัน
และขั้นตอนสุดท้าย เริ่มด้วยการยืดกล้ามเนื้อ(ได้แก่ เอ็นร้อยหวาย , น่อง และกล้ามเนื้อขา) เสมือนการวิ่งบนรถจักรยาน โดยการทำเหมือนตอนเริ่มต้น จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและมีความพร้อมมากกว่าที่จะทำการวิ่งเลย
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 9:51 am
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 10:06 am
moki
คำถามว่า ปัญหาทำไม่ ไม่เกิดช่วงว่ายน้ำ มาจักรยานบ้าง ตอบได้ว่ามีบ้าง แต่ไม่มากเพราะใช้ขาน้อยส่วนมากใช่มือ คนละชุดกล้ามเนื้อในส่วนมาก มีอาการอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งว่างจะพิมพ์ แล้วกันทำงานก่อน
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 10:12 am
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 22, 2009 12:02 pm
3G_riz
โห..พี่Moki นี่ตัวสูงใหญ่มากเลยครับ ฝรั่งยังอาย..
_________________If you wish to be out front,
then act as if you were behind
Lao-Tzu, 6th Century B.C.
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 23, 2009 10:45 am
moki
ปัญหาเรื่องว่ายน้ำของ ไตรกีฬา เป็นเรื่องยาวมากเกิน กว่าจะพูดใน web วิ่ง เอาเป็นว่า เค้าๆ พอเป็นแนว ในกีฬาสามอย่างถ้าไม่เป็นนักว่ายน้ำ นักกีฬาส่วนใหญ่มักกลัวว่ายน้ำ แน่นอนบนจักรยานคุณหายใจไม่ทันเหนื่อล้า ก็เบา ลงมาพักก็ไม่รู้สึกอะไร วิ่งเหนื่อยหรือเป็นปัญหา ก็จะเบา เป็นตะคิวก็ยืดกล้ามเนื้อ แต่ว่ายน้ำ หยุดก็ต้องรู้วิธีหยุด มันจะมีอาการอีกอย่าง เรียกว่า Panic หรือหวาดกลัวตื่นตกใจควบคุมตัวเองไม่ได้ อะไรทำให้เกิด อาจเกิดจาก 1นักกีฬาเอง ภายนอก 2จากนักกีฬาด้วยกัน อุบัติเหตุ หรือ 3จากธรรมชาติ ที่ควบคุมได้ และที่ไม่ได้ เพราะไตรกีฬาไม่ได้แข่งในสระน้ำ มีทั้งในแม่น้ำ ในเขื่อน ในบึง ในทะเลสาบ ในทะเล ในน้ำที่เย็นจัด แยกแยะไม่เหมือนกัน ในการการเตรียมตัว การเตรียมพร้อม เป็น ปัจจัย ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และต่อเนื่องไปจักรยานอย่างปลอยภัย และไม่เสียกำลังไปมากเกินความจำเป็น เริ่มข้อหนึ่ง ตัวนักกีฬาเอง เราต้องรู้ตนเองว่าว่ายน้ำแข็งแค่ไหน เคยว่ายในลักษณะสนามแบบนี้ไหม จะควบคุมตัวเองให้ว่ายเท่าที่ซ้อมหรือที่ทำได้ไหม สมมุติ สนามทะเลซักแห่ง มือใหม่ควรทำอย่างไร ไว้มาต่อพักเที่ยง หิวๆ
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 30, 2009 11:37 am
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 30, 2009 1:44 pm
moki
ดูแล้วสัมผัสด้วย ว่าพื้นทรายมันควรวิ่งแค่ไหน มีหินอะไรถาวรใต้น้ำทำให้ไม่ควรเสี่ยงวิ่งไหม เช่นประการังหัก เลี่ยงสะ ถ้ามีกระทิงแดง ลิโพ เบียร์ ต่างๆ อันนี้ถือว่า ซวย ไป
ถ้าโชคดีผู้จัดทำสนามเสร็จก่อน(ส่วนใหญ่เสร็จเช้า) อาจหา line ให้ตัวเองได้ทั้งStart Finish เช่น Starst เราว่าไม่แข็งแรงประทะน้อย ให้อยู่แถวหลังๆ ไว้ถ้าไม่มีแถวหลังมากให้อยู่หลังแถวคนยิ้ม ตัวอย่าง
หลังจากแถวหน้าไปตาม มั่นใจในการว่ายน้ำและแรงประทะ
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 30, 2009 2:03 pm
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 30, 2009 2:19 pm
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : มิย. 30, 2009 2:50 pm
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 01, 2009 10:54 am
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 01, 2009 11:35 am
moki
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 01, 2009 11:47 am
moki
อีกปัญหานึงของเมืองหนาวคือปล่อยตัว 7.00 am เหมือนตีห้าหน้าหนาวบ้านเรา คือว่ายน้ำไปสว่างคาตา เมื่อเลยจุดกลับตัวแล้ว
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 01, 2009 1:45 pm
moki
นี่ขนาดตอน 8 โมงกว่าแล้วช่วงปั่นจักรยาน หนาว ไม๊หนาว มองดูเอา
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 01, 2009 1:49 pm
3G_riz
พอซ้อมแบบปั่นและวิ่ง เห็นผลเลย วิ่งไม่ออก..
สัปดาห์ที่สองนี่รู้สึกดีขึ้นบ้าง..
พี่ถามเรื่องล้อหน่อย..พวกแข่งไตรส่วนใหญ่จำเป็นไหมต้องเป็นยางฮาฟแบบเสือหมอบ.. พอดีเห็นล้อคาร์บอนขอบสูงที่ขายแต่เป็นยางฮาฟเท่านั้น.. เผื่อสิ้นปีโชคดีไม่โดนตัดโบนัส ว่าจะครอบครองมาไว้แข่ง..
_________________If you wish to be out front,
then act as if you were behind
Lao-Tzu, 6th Century B.C.
กลับไปข้างบน
ตอบ : กค. 03, 2009 11:11 am