Lake Taupo, New Zealand Ironman

 

by...Moki

 

    กลับมาแล้วครับไม่เสียเวลาเล่าให้ฟังเลย

เริ่มเดินทางวันที่ 27 กุมภาพันธุ์ ด้วยสายการบินCathay Pacific พร้อมด้วยอาการไข้หวัดนกไก่ใหญ่ ปัญหาแรกเกิดขึ้น ก็คืออุปกรณ์หนักเกิน คือจะโดนปรับ แม้เอาไปรวมกันของคุณต้อมหรือพี่มั่นก็ยังเกิน ก็จะไม่เกินได้ไงอุปกรณ์จักรยาน ก็เกือบเกินแล้ว แต่ด้วยความเป็น คนไทยบอกว่าจะไปแข่งกีฬาช่วยหน่อยน๊ะน้องสาวจะเอาความภูมิใจมาฝาก สาวๆเลยใจอ่อนพยายามช่วย แต่บอกว่าขากลับโดนแน่ เราคนไทยด้วยกัน โชคดีค๊ะพร้อมอยยิ้ม ถึง Auckland ช่วงเย็น เจอฝน หาข้าวทานแล้วพยายามจะนอนตามเวลาแต่ก็นอนลำบากอีกปัญหานึงคือปรับเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย เมืองนี้ห้าโมงเย็นก็เลิกขายของแล้ว ยกเว้นร้านอาหารทานข้าวร้านจีนแล้วเข้านอน นัดกันว่าตื่นตีห้าวิ่งให้เลือดไหลเวียนสักสามสิบสี่สิบนาที แต่เมื่อเป็นเวลาไทยคือวิ่งเที่ยงคืนนั้นเอง แต่ต้องทำเพราะเวลาที่เราแข่งก็เวลานี้ ออกวิ่งไปก็หนาวไป ไม่ต้องเอามือหรือส่วนใดๆ ไปถูกน้ำละกัน วิ่เสร็จหาอาหารขยะทาน จะอะไรก็แมคโนนัล นั้นล่ะ ช่วงบ่ายเราเช่ารถชมเมือง ไป พิพิธภัณฑ์ไปดูเมือง ท่าเรือ ดูภูเขาไฟ นั่งเรือข้ามอ่าว Auckland แล้วหาแกะย่างทาน ปลา หรือหอยที่นี่ก็อะหร่อย เสร็จก็ไปดูหน้าผา ภูเขาไฟริมทะเล และป่า คนที่นี่น้อยมาก ออกจากเมืองนิดเดียวเจอป่าเลย อากาศยังคงเย็นมาก เวลาโดนแดดก็ร้อนมาก เผาผิวเกรียมเลย ลมมาก็หยิบเสื้อใส่แทบไม่ทัน มีทุกฤดูในชั่วโมง

จากนั้นเย็นเราก็ไปเล่นโยนตัว โดดตึก ให้เสียวเล่นๆ ไม่เครียดกะการแข่งทำตัวเหมือไปเที่ยว และผมต้องหายหวัด เน้นเลย


วันจันทร์ที่ 1 ก็วิ่งตามปกติสามสิบนาที ผม คุณวีระ ต้อม ironman พี่มั่น คุณโก้ และพอสายๆ ไปหาอุปกรณ์แข่งเพิ่มเติมคือ Wetsuits สำหรับว่ายในน้ำเกือบแข็ง ไปร้านแรกปิด ขนไปขายที่สนามแข่งหมด เลยไปซื้อที่ร้าน orca ซึ่งทุกอย่างสวยแต่ค่อนข้างแพง และคืนภาษีไม่ได้ด้วย และน้ำหนักเราเกินอยู่เลยซื้อพอหอมปากหอมคอ รุ่นละตัวพร้อม Wetsuits เพราะชุดที่เอามาไม่แน่ใจจะใช้ได้ อย่างที่บอก หนาวสุด ร้อนเนื้อไหม้ ลมเย็นจัดอยู่มันวันเดียวกัน

วันตอมาวันอังคารที่ 2 เราเข้าโปรแกรม กับ Tritravel เพื่อรวมฝึกซ้อมกับ ทีมชาติ Australia เพื่อเพิ่มพูความรู้ เพราะเราไม่ใช่ผู้เริ่มกีฬาประเภทนี้ และแต่ละปีพัฒนาไปเร็วมาก และการศึกษาสนามก่อนแข่ง เพราะมันคนละโลกกะที่เราซ้อม สภาพเปรี้ยนไป ครับเค้าให้การต้อนรับเราดีมากไม่ดูว่าเรามือใหม่ในเมืองหนาว โค้ช Shane Smith กับ เบอร์หนึ่ง Australia ,Chris Lee เป็นผู้แนะนำ วันนี้ถึง Taupo ดึกแล้ว Shane Smith นัดว่ายน้ำ เจ็ดโมงเช้า เจ็ดโมงเนี๊ยน้ะ

พอถึงพุธที่สาม ก็มาถึง เจ็ดโมงตามเวลาฝรั่ง แค่เดินเหยีบทรายภุเขาไฟก็เย็นไปถึงกระดูก พอเดินลงน้ำ โอ้น้ำช่องทำน้ำแข็งในตู้เย็นนี้เอง แต่ไงถอยไม่ได้ นอกจากใส่ Wetsuits และแล้ว Shane Smith เอาหมวกว่ายน้ำมาใส่ให้อีกคนละใบให้ใส่สองชั้น เค้าก็บอกว่าปีนี้ฝรั่งว่าหนาว ผมไม่ถามไทยแลนด์เป็นไง น้ำละลายจากหิมะเอง เค้าก็เริ่มว่ายนำ ช่วงละประมาณกีโล ก็เราก็ตามได้ เสร็จแล้วก็สอนวิธีออกตัวในน้ำลึกเหมือนวันแข่ง ผมรู้สึกเย็นศีรษะมาก ซ้อมจนจบระหว่างเดินขึ้นหาดน้ำประมาณเอว ก็รู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้มองเห็นพี่มั่นใกล้ที่สุด โผล่ไปกอดไหล่ พี่มั่นคิดว่าล้อเล่น หมดการความคุมร่างกาย Shane Smith เข้ามาดู คิดว่าไม่ชิดกะชุดและน้ำเย็น ว่ายน้ำเลือดจะไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อแขนขาที่หัวจึงน้อย และการหายใจต้องยาวกว่าน้ำอุ่น ซินี่มันคนละโลกเลยกะที่เคยซ้อม คนอื่นก็เป็น แต่ที่ผมอาการมากคือใช้ความเร็วมากไปเพราะตาม Shane Smith เพื่อนๆ คนไทยตกใจมากคิดว่าไม่ไหวแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องเหนือความควบคุม ไม่ใช่หมดแรงนี้อยู่ๆ ไปเฉยๆ เป็นกลางทะเลสาบจะทำไง ผมก็คิดว่าน่ากลัวมากเพราะเราควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่เหนื่อยก็พัก สมองหยุดทำงานไปเลย แต่ผมยังคงอยู่ในสติเข้าโปรแกรมอื่นต่อไปในวันที่ 4 และ 5 คือ จักยานและวิ่ง ไม่มีปัญหาอะไรหน้ากลัวเพราะอยู่บนบก แต่อาการเจ็บเข่าเดิมยังมีบ้าง


ผมพยามชวนเพื่อนลงไปทวนว่ายน้ำเพราะไม่มั่นใจสองครั้ง หลังสุดก็ได้ ต้องเปลี่ยนท่าว่ายเพราะใส่ Wetsuits และหายใจให้แรงและยาวเนื่องจาก Wetsuits มันปีบปอด จนสร้างความมั่นใจได้ว่าน่าจะไม่เป็นอีก ตกเย็นผู้จัดให้ไปตั้งแถว PARADE OF NATIONS เดินผ่านเมืองไปสนามประกอบพิธีเปิด เหมือโอลิมปิคเกม มีประเทศเข้าร่วม 45 ประเทศ แน่นอนมีธงไทยอยู่ที่นั้นไม่น้อยหน้าใคร มีตั้งห้าคน ตองก้า ยูเครน ประเทศละคน ญี่ปุ่น แยะหน่อย นอกนั้นเอเชียไม่เห็น เด็กที่ถือป้าย Thailand เค้าบอกว่าเค้าสมัคร มาเพื่อถือป้ายให้คนไทยเค้ารักคนไทย เข้ามีเพื่อนเป็นคนไทย อายุเค้า สิบปี แม่เด็กก็มาและบอกเราเหมือนเด็กบอก สาวน้อยคนนี้ชื่อ โอริเวียร์ พวกเราสร้างความประทับใจในคนไทยให้เค้าด้วย การคุยอย่างเป็นกันเองสังเกตุเค้าเดินถือป้ายแห่เป็นสองสามกีโลชูป้ายเราสูงหันให้คนดูตลอดเวลา เรารักเค้าเช่นกัน เค้ามาเชียร์เราวันแข่งด้วย เรา เลยซื้อเสื้อIronman แล้วเซ็นชื่อเราทุกคนฝากผู้จัดให้เค้า เพื่อให้เค้าคิดถึงคนไทยทางที่ดีมุมที่ดีตลอดไป กิจกรรมพีธีเปิดเค้าทำได้ดี มีกิจกรรมเต้นลำของเด็กพื้นเมือง เผ่าคนป่าน่ารัก และก็ถึงเวลาแนะนำแต่ละประเทศ ผมต้องสละชุด www.thairunning.com ให้เพื่อนใส่เพราะมันชัดดีมีธงไทยด้วย ภูมิใจที่ได้ทำแทนทุกคน และเสื้อกางเกง ก็โดนยึดไปตามระเบียบ การแนะนำประเทศ เค้าเรียกทีละประเทศ ผมถือธงมาหลายกิโลแล้ว ให้เพื่อนอัเชิญธไปแทน คือโก้ เสียงเฮต้อนรับทุกประเทศ สี่สิบห้าประเทศ พันห้าร้อยนักแข่ง จากนั้นก็รายการ cabo loading party กินอย่างเดียวอาหารอร่อยมาก วันที่ห้าก็ จะมีประชุม Seminar กับอดีตแชมป์โลก Scott Molina c]t Gordo Byrn ต่อจากนั้นเป็น Briefing และ Bike Check in และแล้ววันแข่งขันก็มาถึง ก็ยังมีการแสดงลอยเรือของคนพื้นเมืองตีกลองโชว์ละทึกใจมาก สวยงามมาก หมอกยังคุ้งเต็มพื้นน้ำ สัญญานไฟเริ่มกระพริบให้ลงไปในน้ำ อือเย้นนนนนน,,,,,,,,, เหมือนเดิม เสียงปืนใหญ่ดังปัง คนพันห้าร้อยคนแย้งกันออกไปตามทุ่น โดยมีเรือแคนนู และคอบเตอร์ บินวนดูอีกสามลำ ผมก็ว่ายน้ำด้วยท่วงท่าที่ซ้อมวันก่อนไม่สนใจใครเพราะจะทำให้เราเสียสะโตกได้ พยามลืมเรื่องหมดสติ เพราะมันไม่มีอะไรบอกหรือควบคุมได้จากความเย็น ในใจคิดอย่างเดียวเราคนไทย มีในหลวง พระราชินี พระบรมราชวงศ์ กรมกลวงชุมพร คุมสติ เราต้องไปเสียฟร์อม ตลอด 3.8 Kms .ใช่เวลา 1.27 โดยคนไทย พี่มั่นขึ้น ก่อนที่ 1.25 วิ่งขึ้นเขาไปเอาจักรยานอีก 400 เมตร ต่อด้วยจักรยาน อีกระยะ 180.2 kms พยายามเน้นปลอดภัยใช้พลังให้สมเหตุผลความเร็วให้พอเหมาะ แม้มีอาสาสมัคร รถตำรวจ คอร์ปเตอร์บินตามก็ตาม ก็มีล้ม มีชน ประสาการแข่งขัน แต่ผมมีอย่างเดียวคือต้องจบการแข่งขันให้ประกาศว่า จากไทยแลนด์เค้าเป็นไอออนแมน ในเส้นชัย แต่ขากลับรอบสุดท้ายจักรยานทางขึ้นเขาล้วนๆ เข่าซ้ายอาการไม่ดีปวดร้าว จะถึงไหมเนี๊ยลงน้ำหนักไม่ได้แถมทางขึ้นเขาขึ้นแบบยาวๆ ทั้งเส้น ในใจคิดเหมือนเดิมเราคนไทยมีนายหลวง มีโอกาแทนทุกคนทำให้ดี ก็เลยลงน้ำหนักเข่าขวาซึ่งเจ็บรื้อรังอยู่เดิมแทนประคองเข้าเส้น และแล้วก็ถึงงานหนักสุดวิ่งอีก 42.2 เปิดท้าย เฮอ,,,,,,สูตรเดิม เราคนไทย มีนหลวง กรมหลวงชุมพร วิ่งให้ดูดี หล่อเสมอ ท่าแข็งแรงไว้ก่อนไม่น่าเชื่อ 6 ชั่วโมง ไม่ได้หยุดเดิน เว้นรับน้ำ เท่านั้น คิดในใจว่ากีโลสามหกเค้าว่ากันว่าจะชนกำแพง หนักที่สุดแต่นี้มันหลักจากว่ายน้ำขี่จักรยานมาตั้งไกลชนก็ชนไปก่อนแล้ว คงรอดแน่ กองเชียร์ที่นี่ดีมากมีน้ำใจตะโกนไทยแลนด์ตลอด ตบท้ายชมว่าเยี่ยมมาก และก็เข้าเส้นชัยมีเสียประกาศชื่อวิทยา จาก ไทยแลนด์ เป็นไออ้อนแมน หูชาเสียงเชียร์ลั่นสนาม เข้ารับเหรีย และเข้าเช็คน้ำหนัก โดนสุมเจาะเลือดตรวจ และก็ได้ยินเสียตะโกนไทยแลนด์เข้ามาเป็นระยะจนครบ ทุกคนในระยะนี้มีปัญหาทุกคน แต่เราคนไทยก็จบทุกคน ช่วงเวลาประมาณสามทุ่ม แต่กองเชียร์ ผู้จัเค้ารอจนคนสุดท้ายเข้า แต่ไม่ใช่พวกเรา55555ถึงเที่ยงคืนครับท่าน เค้ารักกีฬาจริงๆ

รุ่งเช้าเราเดินไปรับรูป เอาเหรียญ ไปลงชื่อ ลงเวลาที่เหรียญ ฝรั่งเข้ามาทักทายแสดงความยินดีมากโดยเฉพาะผมเค้าเห็นว่าน๊อคไปตอนว่ายน้ำวันแรก เค้าเรียกมิสเตอร์ orca และคำตอบที่ยืดที่สุดทุกครั้งที่เค้าถามว่าคนไทยจบหมดไหม ผมยืด อก Thailand we all ironman555555ต่อจากนี้เราก็ไปลุย ปันจี้จั้ม โดดร่ม เจ็ดโบ๊ด อย่างมีความสุ จนกลับ และแล้วก็เจอทีเด็ดสายการบิน พวกเราโดนละวางน้ำหนักเกินทุกคนผมหนักสุดโดนไป 1333 US ก็ตัวใหญ่ รถใหญ่ กางเกงใหญ่น้ำหนักมากเป็นทุนเดิม เจอ Wetsuits ชุดกีฬาอีกไม่ต้องซื้ออะไรแล้วจะเอาหินภูเขาไฟกลับบ้านก็ไม่ได้ โวยจนมี สาวแอร์มาช่วยคุยแต่ไงก็ต้องเสียเงิน สาวแอร์คนไทยพาไปส่งถึงเครื่องบอกว่าไม่คิดว่าคนไทยจะมาแข่งไออ่อนแมนที่นี่ ดีใจมาก ผมขอบคุณเธอจำได้ว่าชื่อฝน ขึ้นเครื่องกลับหิวอย่างเดียวกินแหลก เราเพิ่งฉุนเสียเงินเปล่าๆ สองสามหมื่น ถึงดอนเมืองเชื่อเลยกระเป๋าจักรยานไม่ลงสายพาน ของหาย ขอให้หายได้ซื้อใหม่เลยตอนนี้ยังไม่ได้ข่าว มีประกันอยู่

 นี้คือเรื่อที่ผมและเพื่อน รวมห้าคนไป Taupo, New Zealand Ironman ท้ายสุดผมภูมิใจใจความเป็นไทย มีนหลวง และ กรมหลวงชุมพร พวกเราทุกคนที่เป็นกำลังใจที่ทำให้ผมและคณะวางภาพคนไทย นักกีฬาไทย ไว้ในต่างแดน ในระดับไอออนแมน ที่ลืมเสียไม่ได้ผมถือว่า ทนายวิจิตร สมาคมไตรกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ มีสนามให้เคาะสนิมจนกลับมาเป็นคนเหล็ก Ironman from THAILAND ขอบคุณครับ ขอให้สนับสนุนสนามคนไทยเพื่อก้าวไกลในที่สุด ทื่ลืมไม่ได้คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนพวกเราทำหน้าที่ และภาพที่ดีต่อชาวต่างแดน ว่าเราคือไทยไม่น้อยหน้าใคร แต่จำฝัใจ ที่พี่เสืออวยพรขอให้ประสความสำเร็จโดยเฉพาะว่ายน้ำ