ก่อนอื่นต้องขอให้อาจารย์เล่าประวัติส่วนตัว การศึกษาและการทำงานพอสังเขปครับ
 

ผมจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ที่คณะ พร้อมทั้งเรียนปริญญาโทไปด้วย มาจบในปี 2515 หลังจากนั้นก็ได้รับทุนไปเรียนปริญญาโทและปริญญาเอกที่ North Carolina State U. และ Taxas A&M U. ตามลำดับ รวม 5 ปีเศษ กว่าจะกลับมาสอนที่คณะอีกในปี 2521 ในช่วงยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาก็ยุ่งอยู่กับงานสอน งานวิจัย และงานบริหาร ตำแหน่งบริหารในปัจจุบันคือ รองอธิบดีฝ่ายบริการวิชาการครับ
 

อาจารย์เริ่มออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ และอะไรเป็นสิ่งจูงใจหรือกระตุ้นให้อาจารย์หันมาวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
 

ปกติผมเป็นคนชอบเล่นกีฬาอยู่แล้วสมัยเรียนปริญญาตรีก็เป็นประธานชมรมแบดมินตันของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตอนอยู่อเมริกาเริ่มเล่นเทนนิส กลับเมืองไทยได้พัฒนาชั้น 4 ของที่ทำงานเป็นห้องปิงปอง และเริ่มวิ่งออกกำลังบนดาดฟ้า เมื่อไม่มีเพื่อนเล่นด้วย ในที่สุดก็ได้ตระหนักว่า การวิ่งออกกำลังกายต่างกับกีฬาอื่น ตรงที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีเพื่อนเล่นด้วยนะครับ
 

แหม!! อันนี้เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะ สุขภาพเราไม่จำเป็นต้องรอใคร  อ้อและสิ่งที่อาจารย์ได้จากการวิ่งที่เห็นเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคืออะไรบ้างครับ
 

การวิ่งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย ดีอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยครับ
 

ส่วนใหญ่อาจารย์วิ่งช่วงเวลาไหน และวิ่งแถวไหนครับ
 

ปกติผมวิ่งตอนเช้าประมาณ ตี 5 ในบริเวณหมู่บ้านรามอินทรานิเวศน์   ซึ่งอยู่ ใน ซอยรามอินทรา67
 

สถานที่เดียวกับผมเลยนะครับ !! (ฮ้า..)  อาจารย์วิ่งวันละกี่นาทีและเป็นระยะทางเท่าไหร่ครับ
 

ผมวิ่งประมาณ 30 – 35 นาที ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร หรือจะเรียกเป็นสูตรว่า “ตี 5 – 5 กม.” ก็ได้ครับ
 

เข้าท่าดีนะครับ ตี 5 - 5 กม. แต่ไม่ทราบว่าอาจารย์เคยเห็นนักวิ่งท่านหนึ่งในหมู่บ้านเราไม่ครับ ตอนที่ผม warm up ก็เกือบจะตี 5 แล้วหละ แต่นักวิ่งท่านนั้นนะ cool down เหงื่อนี่เปียกชุ่มแล้ว ผมว่าเค้าคงใช้สูตรของอาจารย์ แต่เปลี่ยนเป็น ตี 4 - 4 กม. ??? ก็ได้นะครับ...

นอกเรื่องไปหน่อย ถามต่อดีกว่านะครับ...........เห็นว่าภาระหน้าที่ของอาจารย์ค่อนข้างเยอะมาก ทั้งสอนหนังสือ ทั้งประชุม ไปต่างจังหวัด งานเลี้ยงสังสรรค์และก็เดินทางไปราชการต่างประเทศ ไม่ทราบว่าอาจารย์จัดการอย่างไรกับเรื่องการวิ่งครับ
 

โดยปกติผมจะวิ่งทุกเช้าแต่วันไหนมีงานดึกๆ (งานเฮฮาปาร์ตี้) ก็ต้องทดไปวิ่งชดเชยในตอนเย็น ที่สนามวิ่งมาตรฐานของเกษตร โดยวิ่ง 13 รอบโดยใช้เวลา 30-35 นาที เวลาไปต่างจังหวัดผมก็จะติดรองเท้าวิ่งไปด้วย ปัจจุบันคนต่างจังหวัดก็รักษาสุขภาพกันมาก มีสวนสุขภาพให้คนออกกำลังกาย เช่น สนามกีฬาของเชียงใหม่ บึงพลาญชัยของร้อยเอ็ด สวนสมเด็จย่าของจันทบุรี บึงแก่นนครของขอนแก่น และหนองประจักษ์ของอุดรธานี ผมก็ได้มีโอกาสได้ไปแจมกับเขาเหมือนกัน ส่วนเวลาไปต่างประเทศลำบากหน่อยเพราะไม่คุ้นเคยกลัววิ่งหลงทาง ต้องวิ่งอยู่กับที่อยู่ในห้องพักนั่นแหละ
 

อาจารย์คิดว่าเราทุกคนจะช่วยกันได้อย่างไรในการกระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนใจวิ่งออกกำลังกายกันให้มาก ๆ
 

การที่จะกระตุ้นให้ตนออกกำลังกายมากขึ้น ก็ต้องจัดให้มีสถานที่เป็นอันดับแรก ถ้าเป็นหน่วยงานจำเป็นต้องมีผู้ริเริ่ม และชักชวน
 

แหม!! ถ้าผู้บริหารระดับสูงของแต่ละหน่วยงานมีความคิดอย่างนี้ก็ดีนะครับ  จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องการออกกำลังกายกันมากขึ้น  อ้อ..แล้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีนโยบายในเรื่องส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างไรบ้างครับ
 

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีนโยบายส่งเสริมการออกกำลังกายที่ชัดเจนทั้งของนิสิตและบุคลากร เรามีสนามกีฬาทุกประเภท รวมถึงโรงยิมกลาง และห้องออกกำลังกายของคณะต่างๆ มีห้องสำหรับลีลาศเพื่อสุขภาพ การจัดกลุ่มเต้นแอโรบิคตามหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้จะมีนิสิตและบุคลากรวิ่งออกกำลังกายในสนามวิ่งและรอบๆ มหาวิทยาลัยจำนวนมาก นอกจากบุคลากรของเราเองแล้วยังมีบุคคลภายนอกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะสนามวิ่งของเราเปิด 24 ชม. อยู่แล้ว
 

แหม..ดีจังเลยครับ ตรงที่สนามวิ่ง เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ดึกๆ คงต้องพกไฟฉายไปส่องทางกันเอาเองนะครับ  ท้ายสุดอาจารย์มีอะไรอยากเพิ่มเติมบ้างครับ
 

อยากจะบอกผู้ที่อยากออกกำลังกาย แต่มักจะอ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลาว่าง การแบ่งเวลาสัก 30-40 นาที จาก 24 ชม. ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป ลองหันมาตื่นเช้ากว่าปกติอีกสักนิดดูซิครับ ชีวิตจะสดใสขึ้น  แต่ถ้าไม่สะดวกในการออกกำลังกายนอกบ้านจริงๆ  วิ่งหรือบริหารร่างกายภายในบ้านก็ยังดี ปัจจุบันมีอุปกรณ์การออกกำลังกายมากมาย ลองซื้อมาทดลองสักชิ้นซิครับ ที่สำคัญซื้อมาแล้วต้องใช้ให้คุ้มค่าหน่อย มิเช่นนั้นจะเกะกะบ้านเสียเปล่าๆ ครับ