<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_hurt_understand.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> บาดเจ็บเพราะออกกำลังกายไม่เป็น

ตั้งแต่ 22 ธ.ค. 44 : <% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

 

บาดเจ็บเพราะออกกำลังกายไม่เป็น

โดย...รศ.นพ.ชาญวิทย์ โคธีรานุรักษ์
นิตยสาร HealthToday
 

ใคร ๆ ก็ว่าการออกกำลังกายคือยาดีที่รักษาสุขภาพเป็นเลิศ ป้องกันร่างกายให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย… การที่ร่างกายได้เคลื่อนไหว ได้ใช้กำลังงาน เป็นกลวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง พ้นจากโรคเรื้อรังที่มีแนวโน้มว่ากำลังเพิ่มขึ้นหลาย ๆ โรค อย่างความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ความหดหู่ทางอารมณ์ โรคอ้วน กระทั่งโรคมะเร็ง

คนที่รู้จักออกกำลังกายสายกลางเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือใช้พลังงานตัวเองมาก ๆ ในกิจวัตรประจำวัน ขอย้ำว่าเป็นประจำ คนเหล่านี้จะมีสุขภาพดี และสามารถช่วยชาติและประหยัดค่ายาค่ารักษาพยาบาลได้มหาศาลถึงปีละกว่า 100,000 บาทต่อคนเลยทีเดียว ไม่นับค่าเสียโอกาสในการทำงาน เสียเวลานั่งรอคิวในโรงพยาบาล และสำคัญที่สุด มีโอกาสสัมผัสกับคุณภาพชีวิตที่ดีไม่เจ็บออด ๆ แอด ๆ ได้อายุยืนเป็นของแถมในวัยชรา

แต่ช้าก่อน…คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าการออกกำลังกายจะดีกับสุขภาพเสมอไป เพราะถ้าออกกำลังกายไม่เป็นก็จะนำความทุกข์ทรมานและโรคภัยมาให้ แทนที่จะได้ร่างกายที่แข็งแรง กลายเป็นเจ็บป่วยเพราะออกกำลังกายไม่เป็น เหมือนตัวอย่างของสองคนนี้

มิสเตอร์โทนี่ มาหาหมอด้วยอาการปวดหลังบริเวณใต้สะบักขวา หลังจากเล่นเครื่องเล่นในห้องยิม เพิ่มกล้ามเนื้อหน้าอก และช่วงไหล่อย่างรวดเร็ว คุณหมอตรวจดูแล้วพบว่ากล้ามเนื้ออักเสบ บาดเจ็บ เพราะหักโหมจากแรงหนักเกินไป เลยต้องรักษาโดยวิธีกายภาพ และให้พักกล้ามเนื้อหลังเป็นเวลา2 สัปดาห์

ปกติมิสเตอร์โทนี่ก็ออกกำลังกายในห้องยิมเป็นประจำ แต่คราวนี้โหมหนักเพราะต้องการเร่งเพราะกล้าม เลยใช้น้ำหนักถ่วงมากเกินกว่าสมดุล ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนฉีกขาดจนบาดเจ็บ เพราะหักโหมเกินกว่าที่กล้ามเนื้อร่างกายจะรับได้ เหมือนกับนักวิ่งเร็วหลายคน ที่เกิดกล้ามเนื้อฉีกขาด จนต้องหยุดแข่งไปตลอดชีวิต เพราะไม่ได้อุ่นเครื่องร่างกายให้ดีเสียก่อน แล้วไปลงวิ่งทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ

ส่วนคุณสนั่น ก็มาหาหมอด้วยอาการปวดหลังบริเวณเหนือเอวข้างขวา หลังจากไปตีกอล์ฟกับก๊วนเพื่อน ๆ ปกติคุณสนั่นตีกอล์ฟสัปดาห์ละ 1 ครั้ง วันอื่น ๆ ในรอบสัปดาห์ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรที่ไหน คุณหมอก็ตรวจดูแล้วพบว่ากล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน เกิดจากการตึงตัวมากเกินไป ต้องรัษาพยาบาลด้วยกายภาพบำบัดและยืดกล้ามเนื้อหลัง

คุณสนั่นปกติไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ใช้ลักษณะออกกำลังทีเดียวแบบรวบยอดแบบนี้จนเกิดผลเสียหายกับร่างกายที่เรียกว่าเกิด Oxidative Stress คือภาวะความเครียดของร่างกายที่เกิดจากการไม่เตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย ทำให้ระบบเมตาบอลิซึ่มของเซลล์เสียสมดุล ทำให้เกิดการจับตระกรันที่ผนังหลอดเลือดง่าย เสี่ยงต่อเส้นเลือดตีบตันในวัยชรา และก่อนที่คุณสนั่นไปตีกอล์ฟก็ไม่ได้อุ่นเครื่องร่างกายแต่อย่างใด เพราะถ้าขยันและมีเวลาอีกสักนิดก็ควรจะอุ่นเครื่องก่อนออกรอบ เพียงเดินรอบสนามช้า ๆ ประมาณ 15-20 นาที ตามด้วยท่าเหวี่ยงแขนซ้าย-ขวาอีก30-40 รอบก็พอ กล้ามเนื้อก็จะพร้อมต่อการออกกำลังกาย

นักกอล์ฟหลายคนบางครั้งหักโหมเล่นโดยไม่เข้าใจพื้นฐานของสรีระร่างกาย แม้แต่นักกอล์ฟมีฝีมือบางคนเวลาหวดลูกกอล์ฟทุกครั้ง ทำให้กระดูกหลังเสียดสีกันมากเกินไป โดยเฉพาะท่าตีที่มีองศาแคบ จึงทำให้บาดเจ็บ หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท จนต้องผ่าตัดคนละ 2-3 ครั้ง เพราะความไม่เข้าใจถึงการออกกำลังกายที่ถูกต้อง จนเกิดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อหลัง บาดเจ็บต่อกระดูกข้อสันหลัง และมีผลทำให้เกิด Oxidative Stress ทำให้อนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไปกระตุ้นกระบวนการเกิดของเสียในร่างกาย และเพิ่มอัตราการเก็บสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด

กรณีบาดเจ็บและเกิด Oxidative Stress นี้ส่วนใหญ่เกิดกับคนที่ออกกำลังกายอย่างผิด ๆ โดยไม่อุ่นเครื่องก่อนออกกำลังกาย หรือพวกที่ไม่มีเวลา แล้วรวบยอดมาออกกำลังกายทีเดียวตอนสุดสัปดาห์อย่างนี้เรียกว่า "หักโหมไปเกินกว่าร่างกายจะรับไหว" อย่างน้อย ๆ ถ้าไม่บาดเจ็บมากก็คงทำให้เมื่อยปวดล้าไปหมดทั้งตัว บางคนอาจจับไข้ ไม่สบายไปเลยก็มี

จากนี้ไปถ้าคุณๆยังรักจะออกกำลังกายกันอยู่ล่ะ กคงต้องปรับวิธีกันหน่อย โดยอย่าลืมอุ่นเครื่องก่อนเสมอ และพยายามหาเวลาออกกำลังกายให้ถี่มากขึ้น และกระทำอย่างสม่ำเสมอร่างกายก็จะรับได้


ออกกำลังกายอย่างปลอดภัยและได้ประโยชน์เต็มที่

เคลื่อนไหวออกกำลังกายกับกิจวัตรประจำวัน ออกแรงทำงานบ้านเอง ปลูกต้นไม้ ซักผ้า ถูบ้าน ปั่นจักรยาน เดินเร็ว

ออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็ได้ พยายามอย่ายึดติดกับเวลา จะทำให้มีโอกาสออกกำลังกายมากขึ้น

 อุ่นเครื่อง (warm up) ประมาณ 10-15 นาที ก่อนออกกำลังกาย และเมื่อจะเลิกออกกำลังกายแล้วก็ควรจะชลอค่อย ๆ เลิก เรียกว่า cool down อีกประมาณ 10-15 นาที

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายและหัวใจ ในกรณีที่จะเริ่มออกกำลังกายใหม่หลังจากเลิกราไปนาน

อย่าหักโหมออกกำลังกายรวบยอดสัปดาห์ละครั้ง เพราะจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมมากกว่า และแก่เร็วขึ้นอีกด้วย

อย่าออกกำลังกายหลังทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ จะทำให้แน่นท้อง ท้องอืด ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี

อย่าพนันในการเล่นแข่งขันกีฬา เพราะจะทำให้เกิดความเครียดต่อสมอง พาลจะทำให้นอนไม่หลับไปด้วย

ถ้าทำได้ตามกติการนี้ ผมรับรองว่าการออกกำลังกายจะเป็นยาวิเศษที่จะทำให้คุณมีชีวิตยืนยาว และเปี่ยมด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีครับ