ไม่ต้องผ่า"เสริมอก" เต้นเพิ่มนมสธ.ค้นพบวิธีใหม่

 


ทั้งประหยัดและไม่เสี่ยงที่ใหญ่ก็ทำให้เล็กลงได้ เตรียมเปิดสอนเคล็ดลับการันตีเห็นผลใน3เดือน


ไม่ต้องผ่า - กรมแพทย์แผนไทยฯเปิดแถลงข่าวพร้อมกับสาธิตการเต้นกระชับทรวงอก เมื่อวันที่ 10 ก.พ. เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับหญิงสาว ในการเพิ่มและลดขนาดทรวงอก อีกทั้งยังส่งผลให้เนินอกกระชับเต็มและอิ่มเอิบ โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม


กรมพัฒนาแพทย์แผนไทย คิดค้นวิธี "เต้นกระชับทรวงอก" แก้ปัญหาให้หญิงสาวที่ไม่พอใจขนาดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง ทั้งเล็กและใหญ่แก้ปัญหาให้ได้หมด เผยผลศึกษาพบท่าเต้นที่ช่วยให้หน้าอกที่เล็กมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนคนที่ใหญ่อยู่แล้วก็ช่วยให้เล็กลงและกระชับ เป็นวิธีสุดประหยัดสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอผ่าตัดทำศัลยกรรมให้เปลืองเงินทอง แค่สละเวลาวันละครึ่งชั่วโมง รับประกันเห็นผลภายใน 3 เดือน เผยคนที่มาร่วมฝึกเต้นก่อนหน้านี้ เปลี่ยนขนาดเสื้อชั้นในไปแล้ว 3 ครั้ง เตรียมเปิดหลักสูตรอบรมเคล็ดลับท่าเต้น รุ่นแรก 12 ก.พ.นี้ พร้อมวิธีนวดหน้าอกตรวจมะเร็ง และวิธีเลือกซื้อเสื้อชั้นในที่ถูกต้อง

ค้นพบวิธีใหม่เพิ่มขนาด"หน้าอก"คุณผู้หญิงโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. พ.ญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดแถลงข่าวโครงการเต้นกระชับทรวงอกว่า หลังจากที่เคยมีข่าวฮือฮาเรื่องนวดทรวงอก ซึ่งเป็นการนำภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมาเผยแพร่ และได้ผลตามคำบอกเล่าของผู้หญิงที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้น สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ได้ศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของการนวดทรวงอก เป็นเวลาระยะเวลา 1 ปี ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ในแง่ของสรีระและโครงสร้างของทรวงอกเล็กจะใหญ่ขึ้นจริง ส่วนทรวงอกใหญ่จะเล็กและกระชับมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะถูกปรับรูปทรงให้เข้าที่ ทำให้เนินอกกระชับเต็มและอิ่มเอิบมากขึ้น ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าการนวดทรวงอกถือเป็นการกระตุ้นหน้าอก จะช่วยให้กล้ามเนื้ออกขยายตามหลักของธรรมชาติ และจากการการออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกแข็งแรงขึ้น เป็นฐานทำให้ทรวงอกตั้งขึ้น รวมถึงการใช้เสื้อชั้นในหรือยกทรงที่ถูกต้องเหมาะกับรูปร่างทรวงอก

พ.ญ.เพ็ญนภากล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงไม่ค่อยนิยมออกกำลังกาย และวัยรุ่นเลือกซื้อเสื้อชั้นในใส่กันไม่ถูกต้อง ทำให้รูปทรงของหน้าอกเปลี่ยนไปจนเสียรูปทรง ดังนั้น จึงนำความรู้ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพทรวงอกของสตรีได้ทั้งหน้าอกเล็กและหน้าอกใหญ่ เนื่องจากการออกกำลังกายดังกล่าว มีท่าเต้นประกอบหลายท่า เช่น การกระโดดขึ้นลงบนขั้นบันได การเต้นกระโดดเชือก ทาก้มตัวเขย่าช่วงบนของร่างกายให้สั่น ท่าหนีบต้นแขนไล่กล้ามเนื้อด้านข้างของเนินอก เหล่านี้เป็นต้น สำหรับคนหน้าอกใหญ่จะไม่ใช้วิธีเต้นกระโดด แต่จะใช้วิธีการบริหารกล้ามเนื้อให้กระชับ

"
ท่าเต้นกระชับทรวงอกจะต้องใช้มือนวดภายหลังการออกกำลังกายแล้ว เมื่อเข้าห้องส่วนตัวแล้วจะต้องรู้วิธีการตรวจเต้านมว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ จากนั้นจึงใช้น้ำเย็นราดบริเวณเชิงอกเป็นตัวกระตุ้นทำให้สดชื่น ซึ่งเป็นเทคนิคในการกระตุ้นทรวงอกให้ตื่นตัว เพราะทฤษฎีตะวันตกมีการศึกษาว่าการนำน้ำเย็นมาราดทรวงอกจะมีผลต่อรังไข่และฮอร์โมน ซึ่งจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สำหรับคนหน้าอกเล็กจะต้องเต้นให้มากเพื่อให้ทรวงอกกระเพื่อม และการดันดึงเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว ทำให้กล้ามเนื้อทรวงอกแข็งแรงจะเป็นฐานของทรวงอกดูอิ่มเอิบ ซึ่งการเต้นนั้นจะต้องไม่ใส่เสื้อชั้นใน และอยู่ในห้องส่วนตัว ตามหลักแล้วจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป และควรเต้นทุกวัน" พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว

พ.ญ.เพ็ญนภากล่าวอีกว่า เพื่อให้การเต้นท่าไม่หน้าเบื่อ ทางกรมได้ประสานไปยังสถาบันราชภัฏพระนคร ออกแบบท่าเต้นต่างๆ ให้แก่วิทยากรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ เน้นความเป็นไทยให้มากที่สุด ทั้งนี้ จะเปิดอบรมครูฝึกรุ่นแรก 14 คู่ ครูฝึกรุ่นแรกนี้จะเป็นวิทยากรให้แก่ผู้แทนเขตต่างๆ ทั้ง 12 เขต โดยเริ่มแรกตั้งเป้าสำหรับครูฝึกเขตละ 5 คู่ รวมทั้งสิ้น 120 คน ที่จะนำความรู้เป็นวิทยากรต่อไป" พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว และว่า ชมรมต่างๆ ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการโดยจัดทีมงานเข้ามาฝึกท่าเต้น และเรียนรู้การตรวจทรวงอกด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ การอบรมครั้งแรกกำหนดให้วันที่ 12-13 ก.พ.นี้ ห้องประชุมเบญจกูล อาคารพิพิธภัณฑ์ ในงานจะมีการบรรยายหัวข้อ เช่น การตรวจเต้านมด้วยตนเองและการปฏิบัติ ปัญหาทรวงอกสตรี การเลือกเสื้อชั้นในให้ถูกต้อง การสาธิตและกายบริหารกระชับทรวงอก

"
โครงการนี้นอกจะส่งเสริมให้สตรีไทยประหยัด ไม่ต้องเสียเงินศัลยกรรมทรวงอกและส่งเสริมการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้สตรีมีเวลาตรวจทรวงอกของตัวเอง เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการค้นพบมะเร็งเต้านม" พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว และว่า สำหรับผู้ขายเสื้อชั้นในสตรีนั้นควรเอาใจใส่ลูกค้าให้มากกว่านี้ และควรเพิ่มเคาน์เตอร์สำหรับให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเสื้อชั้นในที่ถูกต้องกับทรวงอก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะแต่ละคนมีหน้าอกแตกต่างกัน บางคนหน้าอกห่าง บางคนหน้าอกชิด การเลือกเสื้อในไม่ถูกวิธีจะทำให้หน้าอกคล้อย ฐานจะห้อย จะต้องทำให้กระชับ ถ้าหน้าอกห่างจะทำให้หน้าอกไม่อิ่มเอิบ หน้าอกที่สวยจะต้องมีหน้าอกอิ่มและเนินอกแคบ จะดูมีเนินสวยงาม ใส่เสื้อสวย

นางกัญจนา ดีวิเศษ นักวิชาการสาธารณสุข 8 สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า คนที่มีหน้าอกเล็ก หน้าอกใหญ่ หน้าอกห่าง อกคล้อย อกยาน ถ้าอกห่าง หน้าอกสองข้างไม่ชิดกันทำให้เวลาใส่เสื้อแล้วไม่สวย แต่ถ้าอกคล้อยฐานหน้าอกต่ำ อกยานจะนึกถึงถุงกาแฟ การเลือกเสื้อชั้นในควรมีฟองน้ำ เจล หรือมีโครงเพื่อดันหน้าอก ควรดึงเนื้อจากข้างอกมาอยู่ในเสื้อ ทำให้หน้าอกนูนชิดกัน อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าเมื่อออกกำลังกายไปแล้วจากการศึกษาเบื้องต้น หน้าอกจะใหญ่ขึ้น โดยคนที่ฝึกในครั้งนี้บอกว่าเปลี่ยนเสื้อชั้นในแล้วถึง 3 ครั้ง

นางกัญจนากล่าวว่า การเลือกเสื้อในเป็นสิ่งสำคัญในการพยุงหน้าอก บางคนตัวเล็กหน้าอกใหญ่ บางคนตัวใหญ่หน้าอกเล็ก จึงต้องวัดหน้าอกในการซื้อเสื้อใน ที่สำคัญคนหน้าอกเล็กไม่ควรใส่ชั้นในนอน เพราะจะดึงให้หน้าอกแบน ถ้าคนหน้าอกใหญ่ใส่เสื้อในนอนได้จะเก็บทรงได้ดี นอกจากนี้ การเลือกซื้อเสื้อในขึ้นอยู่กับการออกแบบให้เหมาะสมมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีการนำกลุ่มหญิงสาวที่เป็นนักศึกษา มาร่วมสาธิตท่าเต้นกระชับทรวงอกให้ผู้ที่สนใจได้ชมด้วย

หมายเหตุ.-จากนสพ.ข่าวสด หน้า 1 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 ปีที่ 12 ฉบับที่ 4457



 

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 ปีที่ 12 ฉบับที่ 4457

แห่ร่วม"เต้นเพิ่มเต้า" ห้ามตุ๊ดวุ่นคุยฟุ้ง"คัพเอ"เป็น"ซี"
 


อาสาสมัครสาวยัน"อึ๋ม"ลูกเกดไม่เชื่อ-ชี้แค่กระชับ แพทย์ศัลยกรรมเย้ยระวังเป็นหญิงกล้ามโต

 


การันตี - นางนุชนาถ แพนเดช อายุ 28 ปี อาสาสมัครสาวซึ่งเข้าร่วมโครงการเต้นกระชับอกของกระทรวงสาธารณสุข เปิดใจหลังเข้าคอร์สเต้นเสริมเต้ามาติดต่อกัน 3 เดือน ยืนยันว่าหน้าอกเพิ่มจากคัพเอเป็นคัพซี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.

 


สาวๆแห่สมัคร "เต้นกระชับเต้า" โทร.ติดต่อกรมพัฒนาแพทย์แผนไทยฯต้นตำรับจนสายแทบไหม้ ต้องบอกปัดสาวประเภทสองเพราะต้องการสงวนเอาไว้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เตรียมจัดครูฝึกออกไปสอนทั่วประเทศ อาสาสมัครสาวเปิดตัวยืนยัน ทดลองเต้นเพิ่มเต้าแล้วได้ผลดี ถึงขนาดต้องเปลี่ยยกทรง จากคัพเอเป็นคัพซี ด้าน "ลูกเกด เมทินี" นางแบบสาวเซ็กซี่ไม่เชื่อจะได้ผลจริง เชื่อทำให้หน้าอกกระชับมากกว่า ส่วนแพทย์ศัลยกรรมจากสถานเสริมความงามทั้งหลายพากันออกมาวิจารณ์ ระบุไม่ได้เปลี่ยนคัพบรา แต่เป็นการเปลี่ยนขนาดของรอบตัวมากกว่า เย้ยควรสนับสนุนโรงงานซิลิโคนจะดีกว่า เชื่ออีก 3-4 เดือนสาวๆที่ไปเต้นแล้วไม่ได้เต้าตามต้องการต้องแห่มาพึ่งมีดหมอแน่

จากกรณีที่พ.ญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ออกมาแถลงข่าวโครงการเต้นกระชับทรวงอก โดยการใช้ท่าเต้นต่างๆ เช่น การกระโดดขึ้นลงขั้นบันได การเต้นกระโดดเชือก ท่าก้มตัวเขย่าช่วงบนของร่างกายให้สั่น ท่าหนีบต้นแขนไล่กล้ามเนื้อด้านข้างของเนินอก โดยเต้นวันละครึ่งชั่วโมง อย่างน้อย 3 เดือน สำหรับคนหน้าทรวงอกเล็กจะใหญ่ขึ้น ส่วนทรวงอกใหญ่จะเล็กและกระชับมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินค่าศัลยกรรมทรวงอก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นข่าวฮือฮาไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ก.พ. พ.ญ.เพ็ญนภา เปิดเผยว่า ภายหลังการการเปิดตัวการอบรมวิทยากรตามโครงการเต้นกระชับอกนั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าหลังเปิดทำการมีประชาชนหลายร้อยคนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวจนเจ้าหน้าที่รับแทบไม่หวาดไม่ไหว หลายรายแจ้งความประสงค์จะขอเข้าร่วมโครงการเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสรีระของตัวเอง เช่น เล็กข้างใหญ่ข้าง แบนราบเกินไป ใหญ่โตเกินไป เป็นต้น บางรายซึ่งเป็นกลุ่มสาวประเภทสองก็แจ้งความประสงค์ขอร่วมโครงการด้วย แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมชี้แจงไปว่าสรีระของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นมีความแตกต่างกัน ฉะนั้นขอสงวนโครงการนี้ไว้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่หากใครจะเข้าร่วมสังเกตการณ์หรือเข้ารับฟังคำบรรยายทางวิชาการในวันที่ 12-13 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุมเบญจกูล อาคารพิพิธภัณฑ์ และศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทยก็สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

"แต่เดิมการอบรมทั้งสองวันที่จะถึงนี้ ทางกรมคัดเลือกครูฝึกไว้แล้ว 14 คู่ ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งไปเป็นวิทยากรตามเขตต่างๆ ทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ แต่เนื่องจากมีกระแสตอบรับเข้ามาดีเกินคาด จนสายโทรศัพท์แทบไหม้ ดิฉันจึงสั่งการไปว่าการอบรมครูฝึก 14 คู่นั้นก็ทำไปตามที่นัดหมายไว้ ผู้สังเกตการณ์อื่นหากต้องการเข้าร่วมรับฟังด้วยก็เชิญเข้ามาเท่าที่ห้องประชุมจะรับได้ การที่มีกระแสตอบรับเข้ามามากมายทั้งหญิงชายวัยรุ่น สาวแก่แม่ม่าย อาจเนื่องจากเป็นการทำโครงการที่ตรงใจ ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีปัญหาคับข้องใจอยู่ก่อนแล้ว พ่อแม่ก็อาจสนใจแทนลูกสาว ส่วนผู้ชายบางคนคงอยากให้แฟนสวยขึ้น ก็เลยช่วยกันเชียร์กันใหญ่"พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว

รองอธิบดีพัฒนาการแพทย์ฯ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทางกรมจะแย่งลูกค้าของสถานพยาบาลศัลยกรรมเสริมความงามนั้น ตนเห็นว่าเป็นคนละตลาดกัน เพราะความจริงๆ แล้วกลุ่มคนที่สวยด้วยแพทย์ด้วยการศัลยกรรมความงามนั้นต้องมีตัวบ่งชี้ว่าควรทำการศัลยกรรมหรือไม่ เราไม่ได้ไปแข่งกับใคร เพราะผู้หญิงที่มีปัญหาถึงขั้นต้องทำศัลยกรรมทรวงอกนั้น หากมาเต้นกระชับทรวงอกอาจจะช่วยไม่ได้ก็ได้ โครงการนี้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น

"โครงการนี้เป็นเรื่องลับสุดยอดสำหรับผู้หญิงหากมีผู้ชายมาเกี่ยวข้องอาจจะวุ่นวายได้ เพราะมีทั้งท่าเต้นในที่โล่งแจ้งและที่รโหฐาน ที่เลือกเปิดตัวโครงการช่วงเทศกาลวันแห่งความรักนั้นก็ไม่มีอะไรมากมาย แต่โดยส่วนตัวรู้สึกเห็นใจผู้หญิง เพราะจะเห็นได้ว่าช่วงวันวาเลนไทน์ทีไรผู้หญิงถูกหลอกทุกปี จึงอยากให้ผู้หญิงเข้มแข็ง เชื่อมั่นใจตัวเอง กล้าที่จะออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ กล้าที่จะสวยอย่างที่เราเป็น ไม่ใช่สวยอย่างที่ผู้ชายอยากให้สวย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่ได้ดำเนินการโครงการอย่างจริงจัง แต่เมื่อเจอข่าวเด็กกินยาลดความอ้วน ผู้หญิงไปผ่าหน้าอกจนเสียโฉม เด็กไปดูดไขมันตาย จึงเกิดแรงบันดาลใจเดินหน้าโครงการอย่างเต็มที่ในที่สุด"พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว

รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์ฯ กล่าวถึงรายละเอียดความเป็นมาโครงการด้วยว่า เริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2545 และได้ข้อสรุปช่วงปลายปีเดียวกัน โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมทั้งหมด 40 คน เริ่มต้นด้วยการทำ BREAST INDEX เพื่อทำเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน จากนั้นให้อาสาสมัครแต่ละคนถอดเสื้อเพื่อวัดขนาดทั้งด้านตรงด้านข้าง โดยมีสเกลเป็นฉากหลัง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าในกลุ่มอาสมัครมีมีลักษณะผิดปกติ แบ่งเป็นกลุ่มๆ คือ 1.เล็กมาก หรือที่บางคนเรียกว่า ไข่ดาว 2.คล้อยห่าง ใส่เสื้อแล้วไม่มีร่องอก 3.คล้อยเพราะอกโตจนเบ้ไปด้านข้าง และ 4.คล้อยลงด้านล่าง ทั้งนี้ อาสาสมัครทุกคนล้วนบอกว่าไม่พอใจในสรีระของตนเอง และจากการสอบถามข้อมูลยังพบว่าทุกคนมักซื้อยกทรงผิดๆ มาใช้ เช่น คนอกใหญ่ก็จะไปซื้อแบบเล็กมาสวมใส่เนื่องจากอายคนขาย คนอกเล็กก็ไปซื้อแบบหนุนมาใช้ ทั้งแบบเหล็กและฟองน้ำ

"หลังจากได้ข้อมูลมาหมดแล้วทางคณะผู้วิจัยจึงร่วมกับคุณเขมมิกา ณ สงขลา เจ้าของตำรับตบนม และได้ความเห็นตรงกันว่า แม้จะมีเสื้อชั้นในที่ดีแต่ไม่มีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ทรวงอกคงดีขึ้นไม่ได้ จึงมีการเสนอให้มีการเต้นด้วย ซึ่งการเต้นนั้นๆ เป็นการเต้นเพื่อจัดเข้าที่ เช่น คนที่อกใหญ่ ไขมันมากจนเบ้ไปย้อยไป ก็ต้องเกร็งกล้ามเนื้อใช้ต้นแขนให้เกิดโกยไขมัน เหมือนการปั้นหม้อในทิศทางที่ถูกต้อง ประกอบกับฝึกมือดันให้เข้าที่ เหมือนกับการเพาะกาย ที่ผู้ชายยังมีกล้ามตึงตามธรรมชาติได้ ผู้หญิงก็สามารถทำให้กล้ามเนื้อช่วงอกแข็งแรงขึ้นได้เหมือนการวางฐานปฏิมากรรมให้สวยงาม ฉะนั้น ท่าเต้นเหล่านี้จึงมีความสำคัญ และหลังจากทำการเต้นรวมกับการโกยหน้าอก และประเมินทางสถิติ ผลก็ออกมาว่าพวกมีปัญหาอกเล็กก็ใหญ่ขึ้น พวกอกใหญ่ก็กระชับ ทุกคนล้วนพอใจ แต่หากจะถามว่าขนาดแต่ละคนเพิ่มกี่เซนติเมตรนั้น คงระบุรายละเอียดไม่ได้ บอกได้เพียงแค่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการวิจัยครั้งนี้ประกอบไปด้วยสามปัจจัยสำคัญคือ 1.มีการออกกำลังกายทุกวัน 2มีการออกท่าทางที่ถูกต้อง และ 3.มีการเปลี่ยนยกทรงที่ใช้อยู่"พ.ญ.เพ็ญนภากล่าว

ด้านนางนุชนาถ แพนเดช อายุ 28 ปี อาสาสมัครซึ่งเข้าร่วมโครงการวิจัยฯให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ตนมีหน้าอกขนาดคัพเอ แต่หลังจากเข้าคอร์สปรากฏว่าหน้าอกเพิ่มเป็นคัพซี สำหรับท่าเต้าต่างๆ นั้นก็ไม่ยุ่งยากอะไร แต่หลังจากเข้าคอร์สแล้วต้องมีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ ละประมาณ 10-15 นาที ช่วงอยู่ในห้องน้ำ เพราะตนเคยหยุดออกกำลังกายต่อเนื่องหน้าอกก็เกือบกลับไปเล็กเหมือนเดิม

"ดิฉันเป็นคนไม่ค่อยมีเนื้อช่วงเข้าคอร์สจึงถูกสั่งให้ทานอาหารมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หน้าอกใหญ่และกระชับขึ้นอย่างเดียว ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงสามีเค้าก็พอใจ เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดแซวติดตลกว่าเราหน้าอกเล็ก พอหน้าอกเราใหญ่ขึ้นมาเค้าก็ถามว่าไปเอามาจากไหน" นางนุชนาถกล่าว

วันเดียวกัน ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมทินี กิ่งโพยม หรือลูกเกด ดารานางแบบชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมพัฒนาแพทย์แผนไทยฯ คิดค้นวิธีการเต้นเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นได้ โดยไม่ต้องศัลยกรรมว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่การเต้นจะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น แต่คิดว่าอาจจะทำให้หน้าอกมีความกระชับได้สัดส่วนขึ้นมากกว่า และเห็นว่าไม่น่าที่จะมีวิธีการใดที่ทำให้หน้าอกเพิ่มขนาดขึ้นได้ นอกจากการไปเสริมหรือให้หมอทำศัลยกรรม ส่วนกรณีที่บอกว่ามีการทดสอบโดยวิธีการเต้น 3 เดือนเห็นผลมาแล้วนั้น ลูกเกดกล่าวว่า ส่วนตัวแม้จะไม่มีความรู้ทางการแพทย์มาก แต่ยังเชื่อว่าไม่สามารถทำได้ เพราะหน้าอกคนเราเป็นต่อมไขมัน จะทำให้ใหญ่หรือเล็กได้โดยการผ่าตัดศัลยกรรมหรือเสริมหน้าอกมากกว่า

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังสถานเสริมความงาม ที่มีชื่อเสียงด้านการทำศัลยกรรมตกแต่ง ถึงโครงการเต้นกระชับทรวงอก โดยนายแพทย์ศัลยกรรมคนหนึ่งของ ประตูน้ำโพลีคลินิค กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีในแง่ของการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น แต่กรณีที่ระบุว่าการออกกำลังกายด้วยท่าต่างๆ จะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ที่มีหน้าอกเล็กกลับโตขึ้น จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนเสื้อชั้นในถึง 3 ครั้งนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ทั้งนี้ เมื่อมีการศึกษาจริง ควรจะมีการถ่ายภาพก่อนและหลังการออกกำลังกาย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าที่ต้องเปลี่ยนเสื้อชั้นในนั้น ไม่ได้เปลี่ยนขนาดของรอบอก แต่ต้องเปลี่ยนขนาดของคัพชุดชั้นใน

"การออกกำลังกายทำให้ปอดขยาย เมื่อปอดขยายหน้าอกก็ขยายตามส่วน แต่ไม่ได้หมายความว่าเต้านมจะใหญ่ขึ้น สังเกตง่ายๆ จากนักกล้ามหญิงจะเห็นว่าหน้าอกใหญ่ แต่เต้านมกลับเล็กนิดเดียว อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมาว่ามีวิธีตบนมเพื่อให้โตขึ้น แต่ที่สุดแล้วก็เงียบหายไป พอมาตอนนี้มีแดนซ์กระชับเต้า ซึ่งในความเป็นจริงเราควรจะแก้ปัญหาให้ถูกจุด น่าคิดถึงเรื่องการสร้างโรงงานผลิตเต้านมเทียมที่ตอนนี้ประเทศไทยนำเข้าปีละหลายร้อยล้านบาทจากอเมริกา เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมหน้าอก" นายแพทย์ศัลยกรรมกล่าว

นายแพทย์ศัลยกรรมรายเดิมยังกล่าวอีกว่า กรณีที่มีข่าวการออกกำลังกายกระชับเต้านมเกิดขึ้น เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ประกอบอาชีพด้านศัลยกรรมตกแต่ง เนื่องจากว่าทำให้เกิดการตื่นตัวสำหรับผู้ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีปมด้อยในเรื่องหน้าอก จะหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น และคาดว่าภายใน 3-4 เดือน จะทำให้หมอศัลยกรรมทรวงอกต้องทำงานกันมากขึ้น เพราะหลังจากกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้นำวิธีการออกกำลังกายดังกล่าวไปใช้แล้วไม่ได้ผล จะหันมาขอคำปรึกษาหมอศัลยกรรมกันมากขึ้น

ส่วนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมตกแต่งของร.พ.ยันฮี กล่าวว่า การออกกำลังกายจะช่วยแก้ปัญหาให้คนอกเล็ก-อกโต ไม่ต้องผ่านการศัลยกรรมทรวงอกนั้น อาจจะพูดเกินเลยไปสักหน่อย โดยเฉพาะที่ระบุว่ามีคนฝึกบอกว่าเปลี่ยนเสื้อชั้นในแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนคัพบรา หรือเปลี่ยนขนาดของรอบตัว แต่คิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนคัพ เพราะไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ

"ต้องเข้าใจว่าหน้าอกคนจะประกอบด้วยหนังชั้นไขมัน เนื้อเต้านม และกล้ามเนื้อ ซึ่งผู้หญิงจะมีเนื้อเต้านมมากกว่ากล้ามเนื้อ และการที่เต้านมของผู้หญิงซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนคือไขมัน พังผืด และท่อน้ำนม โดยกรณีที่ผู้หญิงอกเล็กต้องการให้หน้าอกโตโดยไม่ต้องการพึ่งพาการศัลยกรรมก็สามารถทำได้โดยการออกกำลัง ด้วยการยกน้ำหนัก 3-4 ก.ก. ด้วยท่านอนหงาย ถ้าทำเป็นประจำจะทำให้สามารถสร้างเนื้อข้างใต้ให้โต และเบียดขึ้นมาดูแล้วอกใหญ่ขึ้น ส่วนผู้ที่มีหน้าอกโตก็จะทำให้ไขมันกระชับขึ้น และเป็นผลให้ดูแล้วหน้าอกเล็กลง ซึ่งจะไปสอดคล้องกับการเต้นที่ทางกรมพัฒนาการแพทย์ฯ ได้ออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว"แพทย์ร.พ.ยันฮีกล่าว

แพทย์คนเดิมกล่าวว่า กรณีดังกล่าวสามารถช่วยได้สำหรับผู้หญิงที่ยังไม่มีบุตร ส่วนผู้หญิงที่มีบุตรแล้วจะพบว่าเต้านมจะยานและฝ่อ เนื่องจากภายในเต้านม ซึ่งมีส่วนประกอบของไขมันกับพังผืดแล้วยังมีท่อน้ำนมที่ขยายตัวและเบียดส่วนของไขมันและพังผืด จนเป็นผลทำให้เมื่อท่อน้ำนมหดตัวลงจึงเป็นเหตุให้เต้านมแฟบและนมจะคล้อยลง ซึ่งในส่วนนี้หมอไม่เห็นว่าการออกกำลังกายจะสามารถแก้การคล้อยของเต้านมได้

- ข่าวสด หน้า 1 -