% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_donot_your_heart_by_nan.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %>
หัวใจทำงานหนักขนาดไหน อย่าทรมานหัวใจนักเลย
โดย...น่าน
ฐานิวัฒนานนท์
นักวิ่งหนนแดง
หลังกิจกรรมและการประชุม
APEC
พายุฝนกระหน่ำประเทศไทยตั้งแต่ใต้สันขวานลงมา
ชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ทุกเช้า-กลางวัน-เย็น
ทำเอาบรรดาคนออกกำลังกายกลางแจ้งทั้งหลายต้องนั่งตาปลิบๆอยู่แต่ในบ้าน
อย่างมากก็นั่งมองเม็ดฝนหล่นกระแทกพื้นด้วยความอึดอัดขัดใจ หากจะร้องเพลงปลอบตัวเอง
เนื้อเพลงทำนอง ทรมานหัวใจ
ครับ... ฝนตกนี่แหละครับ ทรมานหัวใจ ใครไม่ติดการออกกำลังกายย่อมไม่มีวันรู้
มันไม่ใช่ทรมานแบบนึกๆเอา แต่มันหงุดหงิดทรมานอย่างรู้สึกได้
อึดอัดที่ไม่ได้ออกไปเต้น ไปวิ่งให้เหงื่อไหลไครย้อย
พวกที่ใช้เครื่องออกกำลังกายอยู่ในร่มตามบ้านตามเฮลท์คลับ เท่านั้น ที่ร้อง
บ่เป็นหยังดอก
ต่อไปได้
ส่วนคนที่ไม่เคยออกกำลังกายอย่างจริงจัง ไม่มีวันรู้ ไม่เพียงเท่านั้น
ยังไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นกำลังทรมานหัวใจตัวเองอย่างเลือดเย็น
และจะทรมานต่อไปอีกจนวันสุดท้าย ถึงตรงนี้ ผู้อ่านบางท่านอาจคิดว่า เอ...
ยังไงกันนี่ คนออกกำลังกายประจำก็ทรมาน คนไม่ออกกำลังกายก็ทรมาน มันยังไงกันแน่ ฮึ!
เมื่อถึงเวลาคนติดออกกำลังกายนั้น ทรมานถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย
แต่ก็เพียงชั่วครู่ชั่วคราว สองสามวันก็ได้ออกได้ไปปลดปล่อย
แต่คนที่ไม่ออกกำลังกายนั้น ย่อมทรมานสังขารมีอาการอึดอัดขัดใจตนเองยาวนาน
ตราบชั่วอายุขัยเลยก็ว่าได้ แล้วส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตัวเอาเสียด้วย
กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว สาเหตุนั้น
ขอบอก
ด้วยวิธีง่ายๆไม่ต้องอาศัยความรู้ทางการแพทย์ หรือวิทยาศาสตร์อะไรมากมาย
หัวใจสัณฐานดอกบัวคว่ำทำหน้าที่สูบฉีดเลือดอยู่ภายในลูกกรงซี่โครงของคนเรานี่นั้น
มีน้ำหนักไม่ถึงกิโลกรัม หากเอาควักหัวใจไปใส่เครื่องบด บดๆปั่นๆ
คงได้เนื้อไปใส่ขวดน้ำดื่มราคา
5
บาท
ได้ไม่เต็มขวด แต่ภาระงานของเขานั้นมากมายเหลือเกิน
ทำงานตั้งแต่เรายังไม่ออกจากท้องแม่ แก่เฒ่าเข้าโลงโน่นแหละจึงได้หยุด
น่าสงสัยว่าเขาอยู่ได้ไง ดูๆแล้วไม่มีวันหยุดเวลาพักเอาเสียเลย
ความจริงหัวใจเราได้หยุดบ้างในช่วงจังหวะการเต้น
1
ครั้ง
ระหว่างการบีบตัวกับคลายตัว เฉลี่ยแล้วใน
1
นาที
หัวใจจะเต้น 70
ครั้ง
ชั่วโมงหนึ่งก็
70 X 60 = 4,200
ครั้ง
สูบฉีดเลือดหมุนเวียนออกจากหัวใจไปได้
818
ลิตร
วันหนึ่งๆหัวใจจะเต้น
4,200 X 24 = 100,800
ครั้ง
ส่งเลือดไปได้
19,639
ลิตร หรือ
19.63
ลูก บาศเมตร
(คิว) ต่อวัน ปีหนึ่งๆหัวใจเต้นถึง
100,800 X 365 =
36,792,000
หรือ
36.8
ล้านครั้ง
ภาระรับส่งเลือด
7,168.27
คิว
หากอายุถึง 70
ปี
ตลอดช่วงอายุขัยนี้ ภาระรับส่งเลือดมากถึง
501,779
คิว
ห้าแสนกว่าคิวนี่ เท่ากับปริมาณน้ำที่ท่วมขังแถวนิพัทธ์อุทิศ
1, 2, 3
เสน่หานุสรณ์
และตลาดกิมหยง (พื้นที่ประมาณ
2
ตร.กม.)
ยามฝนเทหนักลงมา ทำให้น้ำฝนท่วมขัง
ระดับน้ำสูงจากพื้นผิวถนนย่านดาวน์ทาวน์ใจกลางเมืองหาดใหญ่ขึ้นมา
25
ซ.ม.ซึ่งปริ่มๆจวนเจียนจะเข้าบ้าน
แค่มอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านคลื่นน้ำก็เข้าบ้านเข้าร้านได้แล้วละครับ ที่ว่ามานี่
หัวใจคนปกตินะครับ หากคนขี้โรค ประเภทความดันสูง หัวใจ อ้วนพี มีไข้ตลอดปี ฯลฯ
เหล่านี้ หัวใจจะทำงานหนักเต้นถี่กว่านี้อีกมาก
เพราะปริมาณเลือดที่ส่งออกจากหัวใจแต่ละครั้งไปได้ยากลำบาก
หัวใจส่งเลือดไปได้ไม่ไกล แถมปริมาณน้อยอีกต่างหาก
เพื่อให้ได้ปริมาณเลือดไปเลี้ยงให้เพียงพอ หัวใจจึงต้องเร่งสปีดเต้นเร็วขึ้น
พักน้อยลง เส้นทางลำเลียงเลือดผ่านแถมเส้นเลือดหัวใจเองก็ตีบแคบเอากะเขาด้วย
ไม่ทรมานหัวใจกว่าคนที่ออกกำลังกายประจำดอกหรือ ครับ?
ระวังให้ดีเถิดถึงบายพาสมาก็เถอะ หากไม่ฟิต ไม่ดูแลเขาอีก สักวันหัวใจ อาจ
ต้อแต้
ขึ้นมาได้นะครับ
ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่29ต.ค.46<%
L=Len(NewHits)
i = 1
For i = i to L
num = Mid(NewHits,i,1)
Display = Display & ""
Next
Response.Write Display
%>