การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี ช่วยทำให้เราแข็งแรง
ทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นการเสริมสร้างสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ
ได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้โครงการ 30 บาท
หรือโครงการประกันสังคม และโครงการอื่น ๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
แต่ทุกๆคนน่าที่จะต้องทราบข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างถูกต้องก่อนว่า
การออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคนั้น
ไม่ใช่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาอะไรก็ได้ ออกกำลังกายอะไรก็ได้
ความรู้ทางด้านวิชาการของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนั้นน่าที่จะเป็นที่รู้กันแพร่หลายตั้งแต่นักเรียนที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่
5 ขึ้นไป
แต่ในขณะนี้แม้แต่แพทย์ นักกีฬา โค้ช ผู้จัดการทีม นายกสมาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงประเด็นที่สำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โภชนาการที่เหมาะสม!
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะต้องเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจ
ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิตแข็งแรง
การออกกำลังกายชนิดนี้หรือวิธีนี้จะเป็นการป้องกันโรคหัวใจ
โดยเฉพาะโรคหลอดเลือด หัวใจตีบและอุดตัน
จึงจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีพละกำลัง จะได้เล่นกีฬา
แข่งกีฬาได้ด้วยความปลอดภัยพอสมควรและอย่างมีพละกำลัง
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะต้องเป็นการออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่
เช่น แขน หรือขา อย่างต่อเนื่องและนานพอ คือ 20
นาที (หรือถ้าเดินต้อง 40 นาที) ต้องออกกำลังกายให้หนักพอ
(คือให้หัวใจหรือชีพจรเต้นประมาณ 70%
ของความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้
สูตรของการคำนวณความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้ คือ 220-อายุปี
เช่น คนที่มีอายุ 50 ปี ความสามารถสูงสุดที่หัวใจจะเต้นได้ คือ
220-50 ปี ซึ่งก็คือ 170 ครั้งต่อนาที และ 70% ก็คือ 119
ครั้งต่อนาที) และต้องออกกำลังกายให้บ่อยครั้งพอ ซึ่งก็คือ
อย่างน้อย 3 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์
ประเด็นที่สำคัญที่ต้องย้ำ คือ
การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและนานพอ หนักพอ และบ่อยครั้งพอ
ฉะนั้น
ถ้ามาคิดว่ามีการออกกำลังกายหรือกีฬาอะไรบ้างที่ทำได้ตามหลักการนี้
คือ อย่างต่อเนื่องและนานพอ แต่ต้องหนักพอด้วย และทำได้บ่อยๆ
การตีเทนนิสเข้าข่ายเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหรือไม่
จะเห็นได้ว่าการตีเทนนิสเป็นการเสริฟ วิ่ง ๆ หยุด ๆ ตีบ้าง
เก็บลูกบ้าง ไม่เป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและนานพอ
จึงไม่ดีต่อหัวใจ ไม่เป็นการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
แต่ถ้าไม่เป็นโรคหัวใจในขณะที่กำลังตีเทนนิส
การตีเทนนิสก็ถือได้ว่ามีประโยชน์บ้าง เป็นการให้ความเพลิดเพลิน
ได้ออกกำลังกาย ดีกว่าไม่ออกกำลังกาย
แต่โปรดอย่าลืมว่าการตีเทนนิสไม่ได้เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ผู้ที่ตีเทนนิสหลาย ๆ ท่าน แพทย์หลาย
ๆ คน รวมทั้งย.โย่งที่เสียชีวิตจากการเล่นเทนนิส
ถ้าจะให้ดีควรออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเสียก่อน 4 เดือน
เพื่อให้หัวใจแข็งแรงก่อน แล้วจึงเริ่มตีเทนนิส
โดยอย่าหยุดการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แต่อาจทำคนละวัน เช่น
วิ่ง(เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่ง) วันจันทร์ พุธ ศุกร์
ตีเทนนิส วันอังคาร พฤหัส เสาร์ อะไรเหล่านี้เป็นต้น
ด้วยเหตุผลเดียวกัน การตีแบดมินตัน สควอช กอล์ฟ
จึงไม่ใช่การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ในประเทศอังกฤษสควอชเป็นกีฬาที่ทำให้ผู้เล่นเสียชีวิตมากเป็นลำดับต้น
ๆ ของการเสียชีวิตจากการเล่นกีฬา! มากกว่าเล่นรักบี้
ฟุตบอลเสียอีก!
วิธีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เข้ากติกาก็คือ
การออกกำลังกายที่ต้องใช้แขนหรือขาอย่างต่อเนื่องและนานพอ หนักพอ
บ่อยครั้งพอ ก็คือ การเดินเร็วๆ การวิ่ง การกระโดดเชือก การว่ายน้ำ
การถีบจักรยานอยู่กับที่ การเต้นแอโรบิก
หรือการออกกำลังกายอื่นๆอะไรก็ได้ ถ้าทำตามกฎนี้ได้ เช่น
เดินขึ้นลงบันไดเร็วๆ การเล่นสกีน้ำหรือบก การเต้นรำ
และอื่นๆเท่าที่ใครมีสมองใสที่จะคิดขึ้นมาได้และนำไปทำธุรกิจ
การฝึกโยคะเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหรือไม่
การฝึกโยคะเป็นการดีต่อสุขภาพแน่ ทั้งกายและใจ
แต่เนื่องจากไม่มีความหนักพอ จะไม่ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงพอ
การรำมวยจีนก็เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามถ้ามีการดัดแปลงทำให้การออกกำลังกายชนิดนี้หรือชนิดอื่นๆเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
นานพอ หนักพอ บ่อยครั้งพอได้
ก็ถือได้ว่าจะช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงได้เช่นกัน
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะทำให้หัวใจแข็งแรง
ฉะนั้นถ้าเราต้องทำอะไรหนักๆ เช่น วิ่งขึ้นรถเมล์ เดินขึ้นบันได
ภูเขา ก็จะไม่เหนื่อยมาก ทำได้ โดยไม่ค่อยจะมีอันตรายต่อหัวใจ
แต่แน่นอนละ ทุก ๆ อย่างในชีวิตไม่มีอะไร 100%
ไม่มีอะไรแน่นอน (ยกเว้นความไม่แน่นอน!)
แล้วการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะมีโทษหรือไม่
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพก็มีโทษได้ ถ้าไม่ทำตามขั้นตอนซึ่งก็คือ
อุ่นเครื่อง ยืดเส้น ออกกำลังกาย คลายความร้อน และยืดเส้น
ถ้าไม่ทำตามนี้อาจบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิตได้
หรืออาจเมื่อยล้ามากหลังหยุดออกกำลังกายถ้าไม่คลายความร้อนและยืดเส้น
หรือออกกำลังกายผิดเวลา เช่น หลังอาหาร เวลาไม่สบาย เช่น มีไข้
ท้องเสีย ฝนตก ฯลฯ
การเสียชีวิตระหว่างการออกกำลังกายหรือ
sudden death คือการเสียชีวิตระหว่างการออกกำลังกายหรือภายใน 1
ชั่วโมงหลังจากหยุดออกกำลังกายแล้ว
การเสียชีวิตจากการออกกำลังกายแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี และกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
ในกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35
ปีผู้ที่เสียชีวิตมักมีโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด อาจมีหัวใจผิดปกติ
ลิ้นหัวใจรั่ว ฯลฯ แต่เป็นไม่มาก
ตรวจพบได้ยากเพราะการตรวจทั่วๆไปอาจไม่มีอะไรผิดปกติ เช่น
หัวใจไม่โต อาจมีเสียงของหัวใจผิดปกติเพียงเล็กน้อย
ถ้าไม่ใช่แพทย์ทางด้านหัวใจที่ชำนาญจริงๆ อาจจะตรวจไม่พบ
เอ็กซเรย์ปอดอาจไม่พบอะไร คนพวกนี้จะไม่ค่อยมีอาการ ตรวจพบยาก
โดยเฉพาะถ้าเป็นคนธรรมดาที่เล่นกีฬาเพื่อความเพลิดเพลิน
แต่ถ้าเป็นนักกีฬามีระดับ
อาจได้รับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงอาจพบได้ เช่นใน premier
league ของอังกฤษ การซื้อขายนักฟุตบอล เช่น Veron
จะต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพราะมีค่าตัวตั้ง 28
ล้านปอนด์เศษ
ฉะนั้นนักกีฬาที่มีระดับจะต้องได้รับการตรวจหัวใจอย่างละเอียด
หัวใจโตหรือไม่ มีเสียงเต้นของหัวใจผิดปกติหรือไม่
ชีพจรเต้นปกติหรือไม่ ถ้าสงสัยอาจต้องเอ็กซเรย์ปอดเพิ่ม
ทำกราฟไฟฟ้าหัวใจ ทำ stress test ทำ echocardiogram
หรืออื่นๆตามที่แพทย์สงสัย ส่วนผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
มักมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตัน และมักมีอาการอยู่แล้ว
แต่ไม่สนใจ โดยนึกว่าการเจ็บอกเป็นกล้ามเนื้อ
การแน่นท้องที่ลิ้นปี่เป็นลมในท้อง ฯลฯ
ถ้าผู้ที่มีอาการอยู่แล้วไม่ว่าเป็นอะไร ไปหาแพทย์ก็อาจตรวจพบได้
หรือถ้าไม่มีอาการอะไรเลยจริงๆจะออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป
เคยเดิน 100 เมตรก็เดินแค่นี้ไปก่อน
เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆแล้วจึงเพิ่มความเร็ว
ก็จะมีความปลอดภัยพอสมควร
ประเด็นที่สำคัญคือ
ถ้าออกกำลังกายแบบชนิดที่ทำเพื่อสุขภาพจริงๆ โดยที่ไม่มีอาการ
ไม่มีโรคมาก่อน ทำตามขั้นตอน จะปลอดภัยมากพอสมควร
คนที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและไม่อ้วน จะมีความเสี่ยงน้อยในการเป็นโรคต่าง
ๆ กว่าคนที่ออกกำลังกายแต่ยังอ้วน
ซึ่งก็ยังมีความเสี่ยงน้อยกว่าผู้ที่อ้วนและไม่ออกกำลังกาย ผู้ที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย และถ้าเป็นก็มักเป็นแบบไม่รุนแรง
ฉะนั้น
ทุกท่านจึงควรมาออกกำลังกายกันดีกว่าครับ และดูแลตนเองไม่ให้อ้วนด้วย
|