เมื่อเจอนักวิ่งตาบอดท่านจะช่วยอย่างไร

 

 

 

เนื่องจากว่าผมก็เป็นนักวิ่งเพื่อสุขภาพ

สิ่งที่ผมเขียนมานี้ผมหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนตาบอดและเพื่อน ๆ นักวิ่งทุกท่าน

เมื่อต้นปี 42 วันที่ 10-16 มกราคม 42

บ้านเรามีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพ  การแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์  หรือเรียกอีกชื่อว่า  กีฬาคนพิการภาคพื้นเอเซีย และ แปซิฟิกตอนใต้

ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์สอนเด็กตาบอด ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกครั้งนี้

มีเด็กตาบอดคนเดียวที่เป็นนักกรีฑาและเป็นนักวิ่ง ระยะสั้น 100 ม. , 200 ม ที่เหลืออีก 4 คน เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ รวม 5 คน

 

 เฉพาะตาบอดประเภทเดียวไม่ได้รวมแขนขาและวีลแชร์ , ระยะกลาง , ระยะไกล , หรือมาราธอน เรายังไม่ถึงขั้น แต่ผมไม่ได้หมายความว่าเราสู้เขาไม่ได้ แค่เรายังไม่มีการสนับสนุนหรือฝึกซ้อมเอาจริงเอาจังอย่างเต็มที่ และก่อนอื่นประชาชนที่ชื่นชอบกีฬาทุกท่าน หรือนักวิ่งทั้งหลาย ก็ควรจะให้การสนับสนุนด้วยโดยที่ท่านให้โอกาสแก่เขา โดยไม่ใช่สิ่งที่ยุ่งยากอะไรเลย คือ เมื่อท่านเห็นเด็กตาบอดหรือผู้ใหญ่ตาบอดก็ได้ ในงานวิ่งต่าง ๆ ที่ผมและเพื่อน ๆ อาจารย์หลายท่านได้พาเขาเหล่านี้ไปวิ่งในงานต่าง ๆ มาหลายปีแล้ว เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่ยังขาดก็คือไกด์นำวิ่ง เพราะเพียงแค่ผมและเพื่อน ๆ อาจารย์ อีก 3-4 คน ก็คงๆไม่เพียงพอที่จะพานักวิ่งคนตาบอดทั้งที่เป็นนักเรียน และบุคคลอื่น ๆ  (คนตาบอดที่มีอาชีพหรืองานทำแล้ว )

 เพราะบางครั้งพวกเขาเหล่านี้ เขามีความต้องการที่จะออกกำลังกายโดยการวิ่งเพื่อสุขภาพ พร้อมกันทีละหลาย ๆ คน และเท่าที่ผมคลุกคลีอยู่กับเขาเหล่านี้ พวกเขาบอกว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและชอบมากด้วยที่มีโอกาสได้ออกไปวิ่งกับคนตาดี หรือเพื่อน ๆ นักวิ่งทั้งหลายเป็นอะไรที่สนุกสนานมีแต่ประโยชน์ สุขภาพก็ดี นั่นละคือความต้องการของพวกเขาหล่านี้ แต่เขามีข้อจำกัดเพียงแค่เขามองไม่เห็น แค่นั้นแหละที่เป็นอุปสรรคที่น้อยมากสำหรับพวกเขา และที่ผ่านมาที่ผมพาพวกเขาวิ่ง ก็จะขอความช่วยเหลือนักวิ่งบางท่านที่ช่วยนำพาพวกเขาวิ่งไปจนถึงเส้นชัย ต้องขอขอบคุณย้อนหลังครับ

ผมจะเข้าสู่วิธีช่วยเหลือคนตาบอดในการวิ่งเลยนะครับ

         คนตาบอดมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ  

                   บอดสนิท

                   ตาบอดเลือนลาง ( Low Vision)

สำหรับคนตาบอดสนิทส่วนมากจะใช้วิธีจับเชือกโดยเชือกอาจจะเป็นวงกลม ( 0 ) หรือเชือกที่เป็นเส้นจับที่ปลายของแต่ละด้าน

ไกด์นำวิ่งต้องวิ่งเสมอกันหรือเท่ากัน อาจจะจับเชือกอยู่ฝั่งด้านซ้าย หรือขวาก็ได้ แล้วแต่คนตาบอดจะถนัดแต่ส่วนมากไกด์จะอยู่ด้านซ้ายมือ

ไกด์ไม่ควรวิ่งนำหน้าในลักษณะที่ดึงเชือกเหมือนกับลากจูง

เป็นไปได้ว่าไกด์ควรจะบอกระยะทางว่า ตอนนี้เหลือกี่กิโล และบอกว่าให้ก้าวขาให้สูง ในกรณีที่มีสิ่งกีดขวางที่เป็นคลื่นหรือลูกระนาด

เมื่อถึงจุดให้น้ำให้ไกด์รับแก้วน้ำแล้วเอาใส่มือคนตาบอดและอาจจะถามว่าเอาน้ำอีกไหม

ในทางโค้งที่อาจจะเป็นโค้งหักศอก ไกด์ควรจะบอกว่าโค้งซ้ายหรือโค้งขวา และเวลาขึ้นสะพานหรือขึ้นเขาควรบอกว่า ข้างหน้าจะขึ้นสะพานหรือภูเขา

สำหรับคนตาบอดประเภทลางเลือน ก็อาจจะใช้จับเชือกเหมือนประเภทที่ 1 ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะถนัดแบบไหน

บางคนเขาอาจจะจับที่ ประมาณเหนือข้อศอกเล็กน้อย โดยใช้มือขวาจับที่ข้อศอกซ้ายของไกด์ และตรงกันข้าม โดยใช้มือซ้ายจับที่ข้อศอกขวา โดยที่ไกด์งอข้อศอกเหมือนวิ่งปกติ ไม่ต้องเกณ้งหรือเหยียดแขนลงข้างล่าง นอกจากเวลาหยุดดื่มน้ำหรือพัก

ตาบอดเลือนลางอีกประเภทคือ จะเห็นค่อนข้างมาก เขาเหล่านี้จะวิ่งเองได้ โดยไม่ต้องใช้ไกด์ หรือถ้าใช้ไกด์อาจจะวิ่งประคองอยู่ข้าง ๆ

เท่าที่ผ่านมานักวิ่งบางท่านเห็นผมวิ่งกับคนตาบอด โดยการจับเชือก บางคนไม่ทราบอาจจะมีการแซวว่า แหม คู่นี้รักกันจริงนะ ซึ่งผมโดนมาแล้ว ก็ไม่ว่ากันครับ เพราะท่านไม่ทราบจริง ๆ

และอีกอย่างคือไกด์กับนักวิ่งคนตาบอดต้องมีการพูดคุยกันก่อนว่า คุณเคยวิ่งมากี่ครั้ง คุณวิ่งเร็วหรือช้า ขนาดไหน จะได้มีการจับคู่ให้เหมาะสม เพราะเคยมีว่านักวิ่งตาบอดวิ่งเร็วกว่าไกด์ กลายเป็นว่าวิ่งลากไกด์ก็มี นักวิ่งตาบอดบางคนวิ่งได้ดีมากร่างกายแข็งแรงด้วย ประสบการณ์ที่ผมเคยพาคนตาบอดไปวิ่งที่นิวยอร์คมาราธอน ก็คือจะมีหน่วยงานหนึ่งที่เขาจัดให้คนพิการทั่วโลกมาร่วมงานนี้ ( พิการทุกประเภท) เขาจะมีไกด์อาสาสมัครวิ่งเยอะมาก จะแบ่งเป็นกลุ่มให้เลยว่า กลุ่มที่วิ่ง ระหว่าง 3-4 ชั่วโมง , 4-5 ชั่วโมง , 5-6 ชั่วโมง เราคิดว่าเราอยู่กลุ่มไหนเราก็เข้ากลุ่มนั้น นี่คือ ระยะทาง 42.195 กม.( มาราธอน)

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ผมคิดและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนตาบอด

ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมกับสังคมคนปกติทั่วไป

ในการออกกำลังกาย โดยการวิ่งเพื่อสุขภาพ

 

 

ท้ายนี้ต้องขอขอบพระคุณ พ.ต.อ.ศิโรช เพียรสกุล พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์

ที่เชิญให้ไปวิ่งในงานกรุงเทพฯมาราธอนและหลาย ๆ งานที่ผ่านมาทุกๆ ปี

 

โดย...อ.จักรพัฒน์ ( โรงเรียนสอนคนตาบอด )

( จาก Sport Vision  Stemper 2000 )