นายอภิสิทธิ์  รุจิเกียรติกำจร

ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการม.ขอนแก่น


 รอง.กจญ.กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ
(ตำแหน่งก่อนเกษียณ)

(ทำงานที่ป.ต.ท.ตั้งแต่ปี 2521-30กันยายน2548)


 

สร้างนักวิ่งเยาวชน

ชมรมวิ่งปตท.

 

thairunning.com ขอทราบประวัติส่วนตัวย่อๆทั้งการศึกษาและประวัติการทำงานค่ะ
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร   เกิดที่ อำเภอพล จังหวัด ขอนแก่น  เมื่อ 20 กันยายน 2488 ปัจจุบันอายุ 60 ปี

ที่อยู่ 44/13 ถนนคอนแวนต์ สีลม บางรัก กทม.10500 E-mail :apisit.r@pttplc.com

 การศึกษา

เริ่มต้น เรียนชั้นประถมที่บ้านเกิด รร.ซู่เอ็ง มาต่อชั้นมัธยมที่ รร.ดอนบอสโก อุดรธานี และ รร. สารสิทธิ์ พิทยาลัย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ชั้นเตรียมฯที่ รร.เตรียมอุดมศึกษา พญาไท

สำเร็จการศึกษา วิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อ มีนาคม 2512 เรียนต่อโท เอก ที่ Lamar University, Beaumont, Texas USA.

    ทำงานอยู่กรมทางหลวง เกือบ5ปี ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา3ปี กลับมาเข้าทำงานกับ องค์การก๊าซธรรมชาติฯ ปี2521 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และ บจม.ปตท.

     หน้าที่ความรับผิดชอบเริ่มจากเป็นวิศวกร, หัวหน้าหน่วยจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน, หัวหน้าหน่วยก่อสร้าง, ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา, ฝ่ายวิศวกรรมบริการ, ผู้ช่วยผู้ว่าการดูแลงานบริหาร, ผู้จัดการใหญ่บริษัทปิโตรเอเซีย, รองผู้จัดการใหญ่โรงกลั่นสตาร์รีไฟนิ่ง,กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย,
 

ตำแหน่งก่อนเกษียณ  คือตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างระเทศ

    นอกจากงานประจำแล้ว ชอบการลงทุนไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ หรือหลักทรัพย์จดทะเบีนน  ชอบปลูกต้นไม้ใหญ่ประเภท ดอกสวย ดอกหอม และไม้หายาก (ตอนนี้มีแล้วร้อยกว่าต้น) ชอบท่องเที่ยว   ชิมอาหารอร่อย ชอบอ่านหนังสือโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ โบราณคดี สารคดีฯลฯ
 

    การออกกำลังกายขณะนี้คือ จ๊อกกิ้งในวันระหว่างสัปดาห์ ส่วนวันสุดสัปดาห์และวันนักขัตฤกษ์ จะเล่นกอล์ฟ ออกลีลาศบ้างเป็นครั้งคราว

    หลังเกษียณอายุ 30 กันยายน 2548 แล้ว จะทำงานประจำน้อยลง แต่สิ่งที่คิดทำเพิ่มคือ การเรียนภาษาจีนกลาง และภาษาสเปญ อีกทั้งจะทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น  

 

thairunning.com ช่วยเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิ่งออกกำลังกายด้วยค่ะ
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร วันธรรมดาผมจะวิ่งออกกำลังกายส่วนวันหยุดก็จะไปตีกอล์ฟ และวันธรรมดาเนี่ยเราจะไปชวนใครเค้ามาวิ่ง ไม่มีใครมาวิ่งหรอก จะไปเล่นกอล์ฟวันธรรมดาก็คงไม่ได้อีก
thairunning.com คุณอภิสิทธิ์สงสัยมั้ยคะ?ชวนใครมาวิ่งก็ไม่ค่อยมีใครยอมมาวิ่งชวนไปตีกอล์ฟยังจะง่ายกว่า
   
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร ก็เค้าขี้เกียจ การวิ่งเนี่ยมันเป็นเรื่องยากนะ  แต่ผมโชคดีที่สามารถชักชวนพนักงาน ปตท.มาวิ่งได้เป็น 100คนเลยนะครับ เพราะผมวิ่งเป็นตัวอย่างให้เค้าดู
thairunning.com มีวิธีชักชวนคนมาวิ่งได้เยอะเป็น100คนแบบนี้อย่างไรคะ
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

คืองี้จริงๆผมวิ่งก่อนแล้ว (จนถึงปัจจุบันนี้ผมวิ่งมาประมาณ 7ปีแล้วครับและวิ่งสม่ำเสมอ ประมาณครั้งละ 1 ชั่วโมงวิ่งประมาณ 8กิโล ครับ)

แต่กว่าจะชักชวนให้มาวิ่งกันได้ก็ใช้เวลาเป็นปี ผมวิ่งมาก่อนหลายปี  ชวนใครก็ไม่ค่อยมีใครไปวิ่งหรอก ตานี้ผมวิ่งแล้วหุ่นผมเปลี่ยนไปผมหุ่นดีขึ้น หน้าตาดูสดใสขึ้น และผมก็ไม่ค่อยเจ็บป่วย  และผมก็พูดเรื่องการวิ่งออกกำลังกายให้ใครต่อใครฟัง คนก็ได้แค่ฟังก็ยังไม่ค่อยไปวิ่งอยู่ดี

ตานี้พอมีงานวิ่งขอนแก่นมาราธอน ผมก็ชวนกันไป เค้าก็ถือโอกาสอยากไปเที่ยวด้วย และก็ไปวิ่งด้วย พอไปวิ่งแล้วปรากฏพวกเค้าก็ติดใจ พอกลับมากรุงเทพก็มาตั้งชมรม และก็มีคนมาสมัครเยอะ เราก็มีวิธีจูงใจอย่างนี้ครับ

เราก็ให้มีการสะสมแต้ม วิ่งวันหนึ่งก็ได้ 30 แต้ม ใครมาออกกำลังกายวันนั้นก็ได้ 30แต้ม ให้ติ๊กกันเองใช้ระบบซื่อสัตย์ต่อตนเองมีรายชื่อเปิดเผย หากเรามาเดินเกร่ แต่เรามาติ๊กเนี่ยเราก็ละอายตัวเอง และอายคนอื่นเค้าด้วย เพราะเค้าก็ดูชื่อเรา เราก็ให้สะสมแต้มไปเรื่อยๆ พอเดือนหนึ่ง เราก็มีวันหนึ่งที่นัดใหญ่ แต่วันสำคัญนี้ใครมาจะได้ 100 แต้ม เราก็จัดน้ำจัดท่าพวกเครื่องดื่มของกินเล็กๆน้อยๆเฉพาะวันใหญ่  หลังจากวิ่งเสร็จแล้ว ก็มีคนมาวิ่ง ตานี้พอวิ่งกันถึงระยะหนึ่ง เราก็ดูว่าใครแต้มสูงสุดสัก 10 หรือ 20 อันดับแรก เราก็มีรางวัลให้ เป็นของเล็กๆน้อยๆเป็นพวกของชำร่วยของ ป.ต.ท. เช่นน้ำมันหล่อลื่น หรือเสื้อแจ็คเก็ต เป็นจำพวกของพรีเมี่ยมของ ป.ต.ท.พวกเนี่ยน่ะครับ

และเรามีเรื่องจูงใจอีกอย่างหนึ่ง ใน ป.ต.ท.เนี่ยเราจะมีหน่วยแพทย์ จะมีการเช็คร่างกายของพนักงานที่ลงทะเบียน พอเช็คแล้วก็ไปเก็บประวัติเอาไว้ ที่นี้หลังจากเขาได้ออกกำลังกายแล้วเนี่ย สัก 3 เดือน 6 เดือน เราก็เช็ค และเอามาเทียบกับประวัติเดิมว่า  เขามีการพัฒนาการอย่างไรบ้าง  เช่นยกตัวอย่างว่า  ก่อนมาลงทะเบียนเนี่ย คลอเลสโตรอล 300 วิ่งไปแล้ว 3 เดือน คลอเลสโตรอลลดมาเหลือ 240 พอวิ่งต่อมาอีก 3 เดือน ลดลงมาเหลือ 200 แบบเนี่ยคนที่มามารถทำแล้วมีความคืบหน้าในเรื่องสุขภาพดีขึ้น เราก็มีรางวัลให้ เราก็มีลูกเล่นแบบเนี้ยหลายอย่างครับ ไอเดียพวกเนี้ย นักวิ่งในชมรมเค้าช่วยๆกันคิดครับ

 

thairunning.com ตอนนี้ในชมรมวิ่งของ ป.ต.ท.มีประมาณกี่คนคะ?
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

มีประมาณ 500 คนมังครับใช้เวลาเพียง ปีเดียวเองครับ พนักงาน สำนักงานใหญ่มีไม่ถึง 2พันคน แต่เรารวบรวมสมาชิกพวกต่างจังหวัดด้วยนะครับ  เช่นพวกอยู่สงขลาก็วิ่งที่สงขลา อยู่ศรีราชา ก็วิ่งที่ศรีราชา

พอถึงวันนัดใหญ่ประจำเดือนก็วิ่งจังหวัดของใครของมัน ระบุวันวิ่งใหญ่เป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ  พอไปงานใหญ่เช่นงานวิ่งขอนแก่นมาราธฮนทุกคนก็จะไป ไปวิ่งงานอื่นเค้าก็ไปเช่นกัน เช่นพัทยามาราธอน  แต่ที่ไปงานขอนแก่นกันตรึมเพราะอยากได้ใบเซอร์ ปีที่แล้วไปกันประมาณ 250 คน ปี2549คาดว่าจะไปวิ่งกันเยอะ ต่างคนต่างไปก็มี ผมเช่ารถบัสให้คันหนึ่ง ค่าสมัครพนักงาน ป.ต.ท.ฟรี เพราะงานนี้เราเป็นเจ้าภาพครับ

thairunning.com หลังที่ได้มาออกกำลังกายแล้วคุณอภิสิทธิ์มีทัศนคติอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างคะ?
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

เรื่องกินเปลี่ยนไปแล้ว ทำให้เราไม่ค่อยอยากกิน  พอเรามาออกกำลังกายเป็นประจำเนี่ย หากเรายังกินยังดื่มแต่พวกแอลกอฮอลมากๆเนี่ยมันจะทำให้เราหมดแรง มันล้า  สัเกตว่าวันไหนดื่มเยอะ วันรุ่งขึ้นจะวิ่งไม่ค่อยออก พอมันรู้สึกอย่างงี้ถ้าไม่จำเป็น ไม่ติดงานที่มีบรรยากาศอยากจะดื่มเราก็ไม่ดื่ม  บางทีตลอด 7 วันผมไม่แตะเลยนะ

ที่บ้านผมนะครับทั้งเหล้าทั้งไวน์เต็มบ้าน  แต่ผมไม่เคยกินที่บ้านกินคนเดียวไม่เคยกิน มันไม่สนุก

thairunning.com ในฐานะที่คุณอภิสิทธิ์ ทำงานอยู่ในธุรกิจน้ำมันมานาน ช่วยให้แง่คิดให้คนไทยตระหนักในเรื่องน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันน้ำมันแพงมาก
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

จริงๆเรื่องน้ำมันเนี่ยมันต้องตระหนักถึงว่า เราต้องนำเข้าจากต่างประเทศไม่ใช่เราผลิตเองได้ เราผลิตได้เองน้อยมากไม่ถึง 10 %เราต้องนำเข้าถึง 90 % และสิ่งที่นำเข้าราคาน้ำมันก็สูงเราควบคุมไม่ได้ไม่ใช่พอราคาสูงเราเลิกซื้อหรือซื้อน้อยแล้วมันจะลดลงมา เราไม่ซื้อก็มีคนอื่นเค้าซื้อ ราคามันไม่กระเทือน เค้าไม่ง้อเราเพราะเราเป็นผู้ใช้รายเล็กๆ ถือว่าเราซื้อน้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งโลก

 เพราะฉะนั้น เราก็ต้องอยู่ในกระแสมันขึ้น  มันก็ต้องขึ้น แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เราต้องใช้น้ำมันอย่างประหยัด ใช้ตามความจำเป็น  สมมุติว่าเราใช้รถสาธารณะได้เราก็ไปใช้รถสาธารณะ ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถจริงๆต้องใช้รถเองนี่นะ

จะต้องเติมน้ำมันเอง ก็ต้องดูแล 1.ตรวจสภาพรถยนต์ให้ดีพวกไส้กรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง ลมยาง หัวเทียน  องศาจุดระเบิด อะไรพวกเนี่ย  ต้องตรวจสอบสภาพให้ดี  ถ้าสมมุติว่ารถเครื่องมันอยู่ในสภาพดีมันก็ประหยัดน้ำมัน

2.ต้องขับด้วยความเร็วที่เหมาะสม ความเร็วที่ดีที่สุดคือ 90กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันนี้เป็นจุดที่ใช้น้ำมันเปลืองน้อยที่สุด ถ้าขับ 60หรือ 60กิโลเมตร หรือ 40กิโลเมตร ก็กินน้ำมันเยอะ  จะขับ 120,150 กิโลเตรต่อชั่วดมง ก็กินน้ำมันเยอะเช่นกัน  แต่ตรงที่ 90 เนี่ยกินน้ำมันน้อยที่สุด  เราก็พยายามขับให้มันกินน้ำมันน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นเป็นเรื่องความประหยัด

 

thairunning.com มองว่าคนไทยใช้รถยนต์กันฟุ่มเฟือยเกินไปหรือไม่
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

จริงๆจะว่าคนไทยใช้รถยนต์กันฟุ่มเฟือยก็ไม่เชิงหรอกนะ เพราะว่าในต่างประเทศก็ใช้กันอย่างนี้แหละ เพียงแต่ว่า ในบางประเทศเค้ามีทางเลือกให้เช่นเข้ามีระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน ระบบขนส่งมวลชนเค้าดีค่อนข้างสมบูรณ์แบบ มันก็เป็นทางเลือกให้เค้า ตานี้บ้านเราบ้างทางเลือกมันน้อย ถ้าเป็นเมืองนอกเราเดินสบายกิโลสองกิโลสบายเลย เพราะอากาศมันเย็นสบาย ส่วนบ้านเราอย่าว่าแต่เดินกิโลสองกิดลเลยให้เดินแค่500เมตรยังไม่อยากจะเดินเลย ส่วนเรื่องรณรงค์ให้มาขี่จักรยานกัน  การถีบจักรยานในบ้านเราโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพฯมันยากซะหน่อย เนื่องจาก 1.อากาศบ้านเรามันร้อนถีบไปเหงื่อออกมามันก็ไม่เหมาะที่เราจะไปทำงานไปพบปะติดต่อผู้คนเหงื่อไหลไครย้อยมันก็ไม่เหมาะสม ประการที่2.ความปลอดภัยเนื่องจากเราไม่มีถนนสำหรับขี่จักรยานโดยเฉพาะเค้าเรียกไบค์แทร็คซึ่งในบางประเทศเค้าจะส่งเสริมมาก

thairunning.com คุณอภิสิทธิ์เป็นแกนนำสำคัญในการตั้งศูนย์สร้างนักวิ่งเยาวชนช่วยเล่าเรื่องนี้เพื่อนนักวิ่งทราบด้วยค่ะ
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

หลังจากการวิ่งขอนแก่นมาราธอน 2 ครั้ง  ภาพของเด็ก ๆ นักวิ่งเท้าเปล่าได้จุดประกายให้อยากสร้างนักวิ่งเยาวชนขึ้นมา  ผมได้เสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโปรแกรมสนับสนุนเยาวชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มีโอกาสได้รับการพัฒนาเป็นนักวิ่งระดับชาติ โดยในเบื้องต้นได้มีการจัดตั้งศูนย์สร้างนักวิ่งขึ้นมา 21 ศูนย์ เกือบทั้งหมดเป็นโรงเรียน หรือ สถานศึกษาบริเวณใกล้เคียงกับจังหวัดขอนแก่นก่อน  แต่ละศูนย์จะมีอาจารย์พละศึกษาคอยกำกับ ควบคุม และดูแล เยาวชนทั้งที่มาจากโรงเรียนที่เป็นที่ตั้งศูนย์ และโรงเรียนใกล้เคียง จำนวนศูนย์ละ 200 คน  ดังนั้นในสิ้นปีนี้ก็จะมีนักวิ่งเยาวชนประมาณ 4,200 คน

การพัฒนานั้นก็จะเริ่มด้วยการจัดให้มีการฝึกอบรมการวิ่งอย่างถูกวิธี  เทคนิคต่าง ๆ รวมทั้งการดูแลสุขภาพร่างกาย  ตลอดจนตารางการฟิตซ้อม  สำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี จะให้ลงได้เฉพาะมินิฯ เท่านั้น  ส่วนเยาวชนที่อายุ 15 ปีขึ้นไป จึงจะพิจารณาให้ลงฮาล์ฟ หรือ ฟุลมาราธอน แล้วแต่สมรรถนะของแต่ละคน  โดยเป้าหมายแรกที่จะลงคือ ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ  ครั้งที่ 3 วันที่ 22 ม.ค. 49

          ผมเชื่อว่าเยาวชนนักวิ่งเหล่านี้จะทำเวลาได้ดี ซึ่งนอกจากแต่ละคนจะได้รับเหรียญ และประกาศนียบัตรอันทรงคุณค่าแล้ว บางคนอาจมีโอกาสได้รับถ้วยและเงินรางวัลอีกด้วย  คณะกรรมการฯ มีแผนจะส่งนักวิ่ง 10 อันดับแรกไปแข่งขันในสนามอื่น ๆ ทั่วประเทศไทย  อีกทั้งจะคัดพวกหัวกะทิไปแข่งขันยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์ หรือ ฮ่องกง เป็นต้น

          จากโปรแกรมที่กล่าวข้างต้น  ผมเชื่อว่าจะจูงใจให้เยาวชนไทย หันมาสนใจการวิ่งมากขึ้น  ซึ่งจะเป็นประโยชน์หลายอย่าง เช่น นอกจากจะได้นักวิ่งระดับชาติแล้ว ยังจะสร้างให้เยาวชนของเรามีสุขภาพที่ดี  ไม่มีโอกาสไปหมกมุ่นกับอบายมุข หรือยาเสพติด ไม่เป็นภาระของสังคม  ในปี 49 หากคณะกรรมการฯ สามารถหาทุนสนับสนุนโปรแกรมนี้ได้เพิ่มขึ้นเพียงพอก็จะขยายจำนวนศูนย์สร้างนักวิ่งขึ้นมาให้ได้ 70 ศูนย์  ครอบคลุมจังหวัดอื่น ๆ ในภาคอิสานด้วย ถึงตอนนั้นเราก็จะมีนักวิ่งเยาวชนถึง 14,000 คนเลยทีเดียว

 

thairunning.com ในฐานะที่คุณอภิสิทธิ์เป็นประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ในนามผู้สนับสนุนหลัก คือ บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) อยากให้คุณอภิสิทธิ์เชิญชวนนักวิ่งมาวิ่งงานขอนแก่นมาราธอน ในวันที่ 22มกราคม2549
นายอภิสิทธิ์  รุจิเกี่ยรติกำจร

ผมขอเชิญชวน ให้ท่านรีบตัดสินใจตั้งแต่วันนี้เลยครับ เพราะการวิ่ง ครั้งนี้ มีเรื่องยิ่งใหญ่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้สมัคร  ถ้วยรางวัล  เงินรางวัล และเทคโนโลยีใหม่ๆที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งท่านสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้  ขอขอบคุณครับ

 

thairunning.com ขอบคุณค่ะ