<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\Opra_winfree.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> โอปร้า วินฟรีย์  นักวิ่งเพื่อชีวิต Visitors: <% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>


โอปร้า วินฟรีย์  นักวิ่งเพื่อชีวิต

กำลังใจแก่ทุกคน

จากบทความของ เกรทเช่น เรย์โนลส์ (Gretchen Reynolds)
แปลและเรียบเรียงโดยแมวนอนหวด

 

ในเดือนมีนาคม 1993  บ๊อบ กรีน ได้รับโทรศัพท์จากโอปร้า วินฟรีย์    ในเวลานั้น  
กรีนเป็นหัวหน้าโครงการออกกำลังกายที่ เทลลูไรด์ สกี รีสอร์ท ในโคโรราโด   

เขารู้จักกับโอปร้าประมาณหกเดือนก่อนหน้านั้น   
เพราะเขาเป็นคนนำพาวินฟรีย์ซึ่งมีบ้านอยู่ที่เทลลูไรด์ปีนเขาหลายครั้ง
(หมายเหตุ  โอปร้า วินฟรีย์  เป็นพิธีกรหญิงที่ดังที่สุดในสหรัฐ  
และเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักตัวมาก  หลายครั้ง  
เธอสามารถลดน้ำหนักจนรูปร่างสเลนเดอร์  แต่ไม่นาน  เธอก็จะกลับมาอ้วนเหมือนเก่า
-- ผู้แปล)


ในโทรศัพท์  โอปร้า ขอให้กรีนย้ายไปเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวของเธอที่ชิคาโก   
กรีนลังเล "ผมชอบทำงานกับลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพมากกว่า  อย่างน้อยก็แน่ใจว่า  
พวกเขาตั้งใจจริงที่จะลดน้ำหนัก" กรีนท้าวความ   "แต่รายของโอปร้า  ผมดูแล้ว  
ไม่น่าเป็นไปได้ที่เธอจะลดน้ำหนักได้  ผมจึงไม่อยากไปทำงานให้เธอแต่โอปร้าก็เฝ้าขอร้องผม"    ดังนั้น  ในที่สุด  เขาก็ตอบตกลง

 

กรีนซึ่งเป็นนักกายภาพด้านบริหารร่างกาย  ก็เหมือนคนอื่น ๆ
ในสหรัฐที่ทราบเรื่องของโอปร้าและปัญหาน้ำหนักตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ของเธอดี   
เจ็ดปีก่อนหน้านั้น  โอปร้าได้เล่าให้แฟนรายการของเธอฟังออกทีวี  
เกี่ยวกับเรื่องความสำเร็จในการลดน้ำหนักของเธอโดยใช้โปรแกรมลดอาหารของ OptiFast  
แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน  น้ำหนักตัวของเธอก็ค่อย ๆ กลับคืนมา  และตอนนี้  
เธอก็หนักถึง 222 ปอนด์  (ประมาณ 100 กิโลกรัม) และแม้ว่า  
เธอจะเข้มงวดในการรับประทานเฉพาะอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ  และไขมันน้อย  

 

แต่ดูเหมือนเธอไม่มีปัญญาที่จะลดน้ำหนักลงได้แม้แต่ปอนด์หรือสองปอนด์เลย
กรีนไม่ค่อยแน่ใจว่าโอปร้าจะมีความตั้งใจที่จะเข้าโปรแกรมออกกำลังกายของเขา  
แต่เพียงแค่ห้านาทีแรกสำหรับรายการแรก  เขาก็ทราบว่า  เขาได้เลือกลูกค้าถูกคนแล้ว
"ผมกล้าพูดได้เลยว่า  เธอมีความมุ่งมั่นมาก  และเธอจะไม่มีวันยอมแพ้"


ทั้งโอปร้าและกรีนต่างก็มีจุดมุ่งหมายเบื้องต้นเหมือนกัน คือ
การลดน้ำหนักอย่างถูกสุขลักษณะ  แต่ปัญหาคือ จะทำได้อย่างไร   
"ผมได้ตัดสินใจตั้งแต่วินาทีแรกว่า  จะเน้นการออกกำลังกายของโอปร้าด้วยการวิ่ง"  
กรีนพูดขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้ในภัตตาคารของ East Bank Club
ซึ่งเป็นสโมสรสุขภาพแห่งหนึ่งของชิคาโก  ที่ซึ่งเขากับ โอปร้าทำงานร่วมกัน  
กรีนในชุดทำงานซึ่งเป็นชุดวิ่ง  อายุ 46  แต่ยังดูเด็กและกระฉับกระเฉง  
เขายิ้มง่ายและยิ้มบ่อย  "มีวิธีอื่นอีกหลายอย่าง  เป็นต้น  ขี่จักรยาน หรือ
ว่ายน้ำ  
แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักอย่างได้ผลในเวลาอันรวดเร็วแบบที่โอปร้าต้องการล่ะก้อ  
การวิ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด"

 

ในการฝึกเป็นครั้งแรก  โอปร้าและกรีนเดินเป็นระยะทาง 2 ไมล์ (ประมาณ 3.2 K)
อย่างช้า ๆ  "ผมต้องการตรวจสอบสภาพร่างกายของเธอก่อน" กรีนบอก  เขาพบว่า  
เธอมีสุขภาพดีพอที่จะผสมการวิ่งจ๊อกกิ้งกับการเดินหากฝึกเดินสัก 2-3 วัน  
อัตราความเร็วในช่วงเริ่มต้นของเธอในการเดินผสมวิ่ง คือ 17 นาทีต่อไมล์ (1.6K  
หรือประมาณ 10 นาทีครึ่งต่อกิโลเมตร) แต่เพียงสองสัปดาห์หลังจากที่เข้าโปรแกรมมา  
โอปร้าก็สามารถวิ่งผสมเดินได้เป็นระยะทาง 3-4 ไมล์ (ประมาณ 4.8-6.4 K)
ติดต่อกันในอัตราความเร็วดังกล่าว
การกำหนดตารางการฝึกสำหรับโอปร้าไม่ใช่ของง่าย  
โอปร้าต้องตื่นตอนตีห้าเป็นเวลาห้าวันต่อสัปดาห์  เพื่อมาอัดเทปรายการ
โอปร้า
วินฟรีย์ โชว์
  ในช่วงบ่ายแต่ละวัน  เธอจะทำการเล่นสเต็ปเป็นเวลา 45 นาที  
ตามด้วยยกน้ำหนักอีกครึ่งชั่วโมง  
"มันอาจจะหนักเกินไปสำหรับบางคน" กรีนยอมรับ
"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การออกกำลังการถึงสองรอบต่อวัน  
แต่ผมต้องการเร่งระบบเมตาโบลิซึมของเธอให้ทำงานมากขึ้น"
พอถึงช่วงต้นซัมเมอร์  โอปร้าก็เริ่มเข้าที่  
"น้ำหนักเธอเริ่มลดลงต่อเนื่องถึงเดือนละ 8-10 ปอนด์  (ประมาณ 3.6-4.5 กิโลกรัม)"
กรีน กล่าว  "โดยที่เธอไม่ต้องลดอาหารเลย"  อย่างไรก็ตาม  
ก็เกิดการถอยหลังช่วงสั้น ๆ  "ประมาณสามสัปดาห์หลังจากเข้าโปรแกรม  
โอปร้าก็สังเกตว่า  น้ำหนักเธอกลับเพิ่มขึ้น  ไม่ใช่ลดลง  
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง  
โดยน้ำหนักจะเริ่มลดลงอีกครั้งหลังจากผ่านช่วงนี้ไปหนึ่งหรือสองสัปดาห์  
แต่โชคไม่ดี  ที่หลาย ๆ คน  เลิกออกกำลังกายหลังจากที่น้ำหนักหวนคืนมา  
ก็เป็นข้ออ้างที่สะดวกดีสำหรับจะเลิกออกกำลังกาย"
แต่โอปร้าไม่ยอมเลิก  
"แล้วเธอก็ได้ตื่นเต้น   เพราะในไม่ช้า  
น้ำหนักเธอก็เริ่มลดอย่างรวดเร็ว"
  กรีนพูด  "ร่างกายของเราจะทำตามกฎของฟิสิกส์  
ยิ่งน้ำหนักคุณหายไปมากแค่ไหน  คุณก็วิ่งได้เร็วขึ้นเท่านั้น  
และยิ่งคุณวิ่งได้เร็วขึ้นแค่ไหน  น้ำหนักคุณก็ยิ่งหายไปมากขึ้นแค่นั้น"

ในเดือนกรกฏาคม 1993  โอปร้าสามารถวิ่งได้วันละ 5-6 ไมล์     (ประมาณ 8-9.6
กิโลเมตร)    ด้วยความเร็ว 10-11 นาทีต่อไมล์  (หรือประมาณ 7 นาทีต่อกิโลเมตร)  
และในช่วงกลางซัมเมอร์  น้ำหนักเธอก็หายไปกว่า 40 ปอนด์  (เกือบ 20 กิโลกรัม)  
บัดนี้  ได้เวลาที่เธอจะร่วมการวิ่งแข่งแล้ว
"ผมเชื่อว่า  การร่วมวิ่งแข่ง  เป็นแรงจูงใจที่ดี" กรีนกล่าว  "บางครั้ง  
มันเป็นการยากที่จะออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลย"
  
เขาหวังว่า  จะสามารถหารายการวิ่ง 10K ที่เหมาะสำหรับโอปร้าจะร่วมแข่งได้  
แต่เขาก็ไม่สามารถหารายการที่สอดคล้องกับภาระกิจอันมากมายช่วงสุดสัปดาห์ของเธอได้
ในที่สุด  เขาก็ตัดสินใจไปไกลกว่านั้น  ดังนั้น  ในเดือนสิงหาคม 1993  
เขาก็ส่งโอปร้าเข้าร่วมรายการ America's Finese City Half-Marathon ในซาน ดิเอโก  
โอปร้าสามารถวิ่งครบได้ในเวลา 2.16 ชม.
จากความสำเร็จในการพิชิตเหรียญผู้ชนะเป็นครั้งแรก  
โอปร้าก็บอกให้กรีนรีบเตรียมการณ์ให้เธอได้พบกับความท้าทายครั้งใหม่ทันที  
"ในระหว่างที่คุยกัน  มีอยู่ตอนหนึ่ง  เธอบอกผมว่า  
เธอชอบดูการวิ่งมาราธอนในชิคาโก" เขากล่าว  
"เธอจะเชียร์เวลาที่นักวิ่งวิ่งผ่านและก็คิดว่า  
เธออยากทำอย่างนั้นบ้างสักวันหนึ่ง"

กรีนปรามความคิดของเธอ  อย่างแรก  เขาบอกเธอว่า  
เธอควรเน้นการลดน้ำหนักของเธอให้ลงมาถึงเป้าหมาย 150 ปอนด์ก่อน  (ประมาณ 68
กิโลกรัม)  แล้วเธอก็ทำได้ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 1993  และในเช้าวันนั้น  
เธอก็สามารถจบการซ้อมวิ่งระยะทาง 5 ไมล์ด้วยความเร็วเพียง 8 นาทีต่อไมล์ (หรือ
แค่ 5 นาทีต่อกิโลเมตร) เป็นครั้งแรก  "ผมภูมิใจในตัวเธอมาก"
กรีนเล่าถึงความรู้สึกของตัวเองในวันนั้น  "บางครั้ง มีคนพูดว่า  
ที่โอปร้าลดน้ำหนักได้ง่าย  ก็เพราะมีพ่อครัวส่วนตัว  และเทรนเนอร์ส่วนตัว   
แต่ผมว่า  พูดอย่างนั้น  มันไร้สาระ  ไม่มีใครมาวิ่งแทนคุณได้  
เธอต่างหากที่อยู่บนลู่วิ่งทุกเช้า  เธอฝึกซ้อมอย่างหนัก  
หนักมากกว่าที่นักกีฬาคนใดที่ผมเคยเห็นเสียอีก    
สมควรแล้วที่เธอจะได้ผลตอบแทนในความพยายามของเธอ"

 

จากวันนั้นเป็นต้นมา  เป้าหมายในการฝึกซ้อมของโอปร้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก  
เธอประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก  เธอผ่านการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนมาแล้ว  
มีอะไรเหลืออีกล่ะ?  "แน่นอนที่เราต้องการคงน้ำหนักที่หายไปไว้  
ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด" กรีนกล่าว  "แต่เรารู้ว่า  
โอปร้าพร้อมแล้วที่จะเริ่มวิ่งอย่างจริงจังมากกว่าเดิม  ดังนั้น  
เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากโปรแกรมลดน้ำหนักเป็นโปรแกรมฝึกซ้อม  
และเราก็ตัดสินใจว่า  เธอจะร่วมวิ่งมาราธอนในปี 1994"
ดังนั้น  ในตอนต้นเดือนมกราคมของปี 1994  โอปร้าก็เพิ่มการฝึกซ้อมขึ้น  
แต่น่าแปลกใจที่เธอเริ่มต้นด้วยการวิ่งน้อยลง  ทว่า  
นั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฝึก "เรายกเลิกโปรแกรมออกกำลังกายสองรอบต่อวัน"
กรีนกล่าว "และผมยังลดจำนวนไมล์ที่เธอวิ่งอีกด้วย  
แต่ผมเริ่มเน้นการฝึกความแข็งแรงในระดับเข้มข้น  เพราะผมทราบว่า  
การฝึกสำหรับการแข่งมาราธอนนั้น  จะสร้างความลำบากแก่ร่างกายของเธอ  
ผมต้องแน่ใจว่า  ข้อต่าง ๆ ของเธอแข็งแรงเพียงพอ"
ในกล่าวซัมเมอร์ของปี 1994  โอปร้าวิ่งมากถึง 50 ไมล์ (80 กิโลเมตร) ต่อสัปดาห์  
รวมทั้งการวิ่งยาวในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย  บางครั้ง  เธอก็บ่น  
"มันช่างทรมานแท้ ๆ"
แต่กรีนก็ตอบว่า  
"ไม่หรอก  แต่มันเป็นการให้ชีวิตใหม่ทุกวันต่างหาก"
คำปลอบโยนของเขาได้ผล  และโอปร้าก็ผ่านการฝึกซ้อมตามโปรแกรมไปจนได้  
สามเดือนต่อมา  
เธอเข้าร่วมและก็ผ่านรายการ Marine Corps Marathon
โดยไม่ต้องหยุดเดินแม้แต่ก้าวเดียว  "ผมไม่มีวันลืมไมล์ที่ 25
ของการแข่งขันครั้งนั้นเลย" กรีนกล่าว  "ผมหันตัวไปมองเธอ  
เธอดูยิ่งใหญ่มากตอนที่วิ่งผ่านฝูงกองเชียร์  หัวใจเธอเต้นระทึก  น้ำตาคลอเบ้า  

 

ผมก็คิด  นั่นแหละ  นี่คือความหมายของทุกอย่าง  จาก 222
ปอนด์มาถึงที่เธอเป็นในตอนนี้  มันช่างเหลือเชื่อ
"เธอสามารถที่จะเลิกฝึกซ้อมได้ตั้งแต่หลายเดือนก่อน  
และเธอก็มีเหตุผลอันสมควรที่จะทำอย่างนั้น  แต่เธอก็ไม่ยอมเลิก  ผมชอบที่จะคิดว่า
ความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นของเธอจะแสดงให้ผู้คนนับล้าน ๆ ได้เห็นว่า  
พวกเขาก็สามารถที่จะพัฒนาชีวิตของพวกเขาได้  พวกเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องวิ่งมาราธอน
แต่พวกเขาสามารถวิ่ง 5K ได้  
หรือพวกเขาสามารถขจัดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่ต้องการได้  
มันเป็นแรงจูงใจมหาศาลในการเฝ้ามองใครสักคนเปลี่ยนแปลงตัวเอง  
และนั่นคือสิ่งที่โอปร้าได้ทำ  ตอนนี้  
เธอเป็นนักวิ่งเพื่อชีวิตไปแล้ว"